เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่กระทรวงแรงงาน นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน(คปค.) กล่าวภายหลังเข้ายื่นหนังสือถึงนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อติดตามข้อเรียกร้องการปฏิรูประบบประกันสังคมและการพัฒนาสิทธิประโยชน์ โดยมี นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เข้ารับหนังสือดังกล่าวแทน ว่า การหารือครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคมภายหลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2558 แต่พบว่า กฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ หน้าที่ และประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนจะได้รับ หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคมยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งประกอบด้วย 6 ข้อ ได้แก่ 1.การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคมาตรา 63(2) 2.การปฏิรูปสิทธิระบบทันตกรรม โดยเฉพาะการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายมนัส กล่าวอีกว่า 3.การเลือกตั้งคณะกรรมการ(บอร์ด) ประกันสังคมตามมาตรา 8 เนื่องจากบอร์ดหมดวาระแล้ว 4.การพัฒนาสิทธิประโยชน์ประกันสังคม 5.การปฏิรูประบบบำนาญชราภาพ โดยเฉพาะกรณีผู้ประกันตนที่เกษียณและรับเงินบำนาญชราภาพ แต่เสียชีวิตใน 60 เดือนได้เงินทดแทน10 เท่า และต้องให้เงินออมที่เหลือแก่ทายาทด้วย และ 6.ขอให้คณะกรรมการการประกันสังคมพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างแก้ไขปรับปรุงกฎหมายประกันสังคมทั้งฉบับ อย่างไรก็ตาม จากการหารือ มีความคืบหน้าเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งบอร์ดสปส. ตั้งอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค พิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งทางคปค.จะติดตามการดำเนินงานเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
“ ส่วนเรื่องการพัฒนาสิทธิประโยชน์นั้น มีเรื่องการปลดล็อก 14 เงื่อนไขกลุ่มโรคที่เดิมสปส.ยกเว้นไม่จ่ายนั้น ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าว่า ได้ปลดล็อกไป 2 ข้อ คือ เรื่องจิตเวช กับยาเสพติด ดังนั้นจะเหลืออีก 12 เงื่อนไข ซึ่งทางคปค.มองว่าต้องปลดล็อกให้เท่าเทียมกับสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่อาจยกเว้น 3 ข้อที่ต้องยกเว้นไม่อยู่ในสิทธิ คือ การเสริมความงาม การแปลงเพศ การรักษาที่อยู่ระหว่างค้นคว้าวิจัย เป็นต้น” นายมนัส กล่าว และว่า ทั้งนี้ คปค.ยังแสดงจุดยืนเห็นด้วยกับการจ่ายเงินสมทบเพิ่ม โดยคิดคำนวณจากเพดานใหม่เป็น 20,000 บาทจาก 15,000 บาท ซึ่งจะเพิ่มเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แต่จะได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม และเงินบำนาญชราภาพก็เพิ่มด้วย แต่ทางสปส.บอกว่าต้องรับฟังความคิดเห็น เนื่องจากยังมีผู้ประกันตนที่ไม่เห็นด้วยอยู่
