เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) พร้อมพระเกจิชื่อดังหลายรูปในพื้นที่ จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยประชาชน แพทย์ พยาบาล นิสิตนักเรียน ตลอดจนกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายเผ่าร่วมหมื่นคนให้การต้อนรับนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ และคณะทีมวิ่งตามโครงการก้าวคนละก้าวหลังประสบความสำเร็จจากการวิ่งเส้นทาง อ.เบตง จ.ยะลาถึงอ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อเย็นวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมาด้วยระยะเวลา 55 วัน ระยะทาง 2,198.82 กิโลเมตร
โดยบรรยากาศการให้การต้อนรับเป็นไปด้วยความอบอุ่น ผู้มารอได้นำธนบัตรร้อยเป็นทางยาวตั้งแต่ประตูชัยปากทางเข้าไร่เชิญตะวันไปจนถึงพระ วิหารดิน ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับตูนและคณะซึ่งเมื่อคณะตูนมาถึงได้มีการเดินพบปะประชาชนพร้อมรับบริจาคต่อเนื่อง โดยยังพบว่ามีประชาชนมาร่วมบริจาคอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งตูนมีสีหน้ายิ้มแย้มกว่าทุกวัน ส่วนหนึ่งอาจมาจากการได้พักอย่างเต็มอิ่มและอีกส่วนมาจากการดีใจที่ทำตามความฝันได้สำเร็จในการพิชิตการวิ่งระยะไกลจนได้
จากนั้นพระมหาวุฒิชัย ได้นำตูน บอดี้สแลมพร้อมคณะ เดินไปตามเส้นทางที่สองฟากฝั่งมีแต่ประชาชนไปทำการรดน้ำและนมัสการต้นหน่อพระศรีมหาโพธิ์ ก่อนเดินทางต่อไปยังบริเวณพื้นที่หน้าพระวิหารดินทางพระ ว. วชิรเมธี ได้มอบต้นดอกไม้เงินซึ่งเป็นธนบัตรจำนวน 20 ต้น มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาทให้กับตูน บอดี้สแลม ถัดมาได้เข้าไปสู่ในวิหารดินพระสงฆ์ให้ศีลแก่ตูนและคณะ โดยได้จัดให้ตูน บอดี้สแลม และก้อย รัชวิน ดารานักแสดงซึ่งเป็นแฟนสาวนั่งในซุ้มไม้ค้ำสลีเพื่อประกอบพิธีศรีสู่ขวัญนานประมาณ 20 นาที
หลังเสร็จพิธีพระมหาวุฒิชัย ได้ทำการผูกข้อไม้ข้อมือให้กับทางตูนและก้อย เพื่อเป็นศิริมงคล โดยหลังการผูกข้อมือทางพระมหาวุฒิชัย ได้นำเงินสดจำนวน 20 ล้านบาทซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการประมูลประติมากรรมงานปั้นและภาพวาดชุดโพธิสัตว์ มอบส่งต่อให้กับทางตูนเพื่อสมทบทุนเข้าโครงการก้าวคนละก้าว จากนั้นจึงได้ให้นายณรงค์ศักดิ์และบุคคลต่างๆ ทยอยผูกข้อมือตามความเชื่อของชาวล้านนาภาคเหนือที่ต้องการเรียกขวัญเมื่อไปประกอบกิจกรรมต่างๆ หรือเดินทางไกลมา
โดยเมื่อเสร็จพิธีการทางศาสนาและการบายศรีสู่ขวัญทางพระมหาวุฒิชัยได้นำประติมากรรมงานปั้นชุดโพธิสัตว์ 1 ชิ้นมอบให้กับทางตูนไว้เป็นที่ระลึก และถือโอกาสให้ทางตูน บอดี้สแลม ได้เป็นผู้แทนในการมอบประติมากรรมปั้นชุดโพธิสัตว์อีก 7 ชิ้นให้กับมหาเศรษฐกิจที่ร่วมประมูลผลงานนำเงินเข้าโครงการตามยอดดังกล่าวก่อนที่จะให้ทางตูน บอดี้่สแลมกล่าวถึงที่มาของโครงการก้าวคนละก้าวและความรู้สึกหลังประสบความสำเร็จตามโครงการจนลุล่วงไปด้วยดี
ด้านตูน บอดี้สแลม กล่าวว่า การเริ่มโครงการก้าวคนละก้าวมีแรงบันดาลใจจากการวิ่งมาจากการได้รับเชิญให้ไปทำกิจกรรมช่วยสร้างอาคารที่โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลพาไปดูสถานที่ ก็เกิดความสะท้อนใจว่าแม้เราจะทำกิจกรรมตามปกติก็คงช่วยได้ไม่มาก จึงเห็นว่าการวิ่งเป็นสิ่งเดียวที่เราจะทำได้จึงวิ่งจากกรุงเทพฯ-บางสะพาน เวลา 10 วัน จึงได้เงินมาจำนวน 85 ล้านบาท รวมทั้งทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางสะพานยังบอกว่าการออกกำลังการเป็นการแก้ไขปัญหาสุขภาพที่ต้นเหตุและลดปัญหาการไปใช้บริการด้านสาธารณสุข ต่อมามีโรงพยาบาลหลายแห่งมาขอให้สนับสนุนบ้าง ตนจึงเห็นว่าเนื่องจากเรามีโรงพยาบาลหลายแห่งจึงต้องทำเพื่อโรงพยาบาลศูนย์ก่อนเพราะมีสาขาโรงพยาบาลชุมชนในเครือข่ายหลายแห่งและบางแห่งช่วยเหลือได้หลายจังหวัดด้วย รวมทั้งเป็นศูนย์รวมการรักษาพยาบาลโรคหนัก เช่น มะเร็ง หัวใจ โรคในเด็ก ฯลฯ
ตูน กล่าวต่อว่า ต่อมาทางตนจึงนำวิธีการวิ่งมาใช้ด้วยการวิ่งเหนือสุด-ใต้สุด ของประเทศเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลศูนย์จำนวน 10 แห่งและโรงพยาบาลน่านซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลศูนย์แต่อยู่ห่างไกลต้องใช้ระยะเวลาส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลศูนย์ จ.ลำปาง อีก 3-4 ชั่วโมงซึ่งนั่นหมายถึงชีวิตและหากมีเครื่องมือที่ทันสมัยก็อาจจะช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยได้พอสมควร ทั้งนี้ตนรู้สึกเหมือนฝันตั้งแต่วินาทีแรกที่วิ่งเข้าถึงที่หมายที่ อ.แม่สาย และปัจจุบันก็ยังรู้สึกเช่นนั้นอยู่เพราะทุกคนให้เกียรติและดีกับตนมากซึ่งต้องขอขอบคุณทุกคนที่ทำให้ตนสามารถวิ่งได้ถึงที่หมายได้สำเร็จ
ด้านพระมหาวุฒิชัย กล่าวว่า เมื่อได้เห็นตูน บอดี้สแลม วิ่งในกิจกรรมนี้ก็คิดหาวิธีจะสนับสนุนจึงได้ร่างภาพวาดและให้ศิลปินไปจัดทำเป็นประติมากรรม “จิตโพธิสัตว์” จำนวน 8 องค์ มอบให้ตูน 1 องค์และอีก 7 องค์นำมาประมูลปรากฏว่าได้เงินมาจำนวน 7 ล้านบาทโดยบุคคลที่ประมูลไปมีหลายคน เช่น นายฐาปนประมูลไป 1 องค์และยังบริจาคเพิ่มอีกจำนวน 12 ล้านบาทแล้วได้ภาพวาดที่อาตมาวาดให้ตูน ไป 1 รูป และยังมีคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ชื่นชมในความดี ขณะที่คนเฒ่าผู้แก่ทั่วไปที่อาตมาได้สอบถามก็บอกว่าเมื่อนึกถึงตูน พาให้นึกถึงครูบาศรีวิชัยซึ่งเป็นพระเกจิชื่อดังของชาวล้านนาภาคเหนือ ที่ในอดีตเคยรับเงินบริจาคแต่ท่านก็ไม่เก็บเอาไว้ แต่กลับนำไปสร้างวัด บริจาคให้โรงพยาบาล สถานศึกษา จนสร้างวัดได้ 106 แห่ง ซึ่งเหมือนตูน ที่วิ่งครั้งนี้แล้วนำเงินที่ได้มาให้คนอื่นหมด
“การทำต้นดอกไม้เงินขึ้นมา ก็เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ตามแนวคิดของตูน ที่พูดว่าโครงการไม่ได้ต้องการเงินมากจากคนน้อยๆ แต่ต้องการเงินน้อยๆ จากคนมากๆ ซึ่งการนำธนบัตรใบละ 20 มาทำต้นดอกไม้แสดงถึงสัญญลักษณ์ของคนเล็กคนน้อยทั่วประเทศไทย ส่วนการบายศรีสู่ขวัญเป็นการแสดงออกเชิงสัญญลักษณ์ พลัง การแสดงการขอบคุณ สร้างขวัญกำลังให้พื้นฟูกลับให้มีกำลังสุขภาพกายสุขภาพจิตและทำให้เป็นสิริมงคลแก่ตูน การบายศรีจึงอยากให้มีการเรียกพลังให้กลับคืนมา เรียกขวัญที่อาจตกหล่นตามรายทางที่วิ่งมาตลอดเส้นทาง” พระมหาวุฒิชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเสร็จพิธีที่ไร่เชิญตะวัน “แอ๊ด คาราบาว” ซึ่งเดินทางไปร่วมในพิธีได้ร้องเพลงที่ประพันธ์โดยพระมหาวุฒิชัยชื่อเพลง “วิ่งบนถนนสะเทือนถึงหัวใจ” และพระมหาวุฒิชัยได้มอบภาพวาดที่วาดขึ้นเองให้ตูน อีก 3 ภาพเป็นภาพตูนวิ่งโดยมีแต่ขาซึ่งให้ความหมายว่าเป็นผู้ที่ไม่ยึดมั่นใจตัวตนและมีแต่ให้ผู้อื่นทั้งหมด และภาพวีอาร์วันหมายถึงการทำงานเป็นทีมและสามัคคี รวมทั้งภาพตูนวิ่งซึ่งหมายถึงความไม่นึกถึงตัวเองแต่ทำเพื่อคนอื่น ทั้งนี้เมื่อเสร็จพิธีแล้วตูน ได้พักรับประทานอาหารและพักในไร่เชิญตะวันโดยยังไม่มีการแจ้งว่าจะเดินทางไปยังที่ใดต่อ แต่มีกระแสว่าจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้
