เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่วัดแสงอรุณพรหมวิหาร บ้านแสงอรุณ ตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวชิระ เนียมทา อายุ 55 ปี กำนันตำบลบุญทัน หลวงพ่อสิงห์ กัตปุณโย อายุ 85 ปี เจ้าอาวาสวัดแสงอรุณพรหมวิหาร และพระศรีไพร เตสัง อายุ 56 ปี พระลูกวัดแสงอรุณพรหมวิหาร ได้บอกเล่าถึงสภาพอาการบาดแผลของตนเองที่เกิดขึ้นบริเวณขาทั้งหมด
นายวชิระ เนียมทา กำนันตำบลบุญทัน กล่าวว่า ตนได้พยายามระมัดระวังในเรื่องการที่จะลงในแปลงนาขณะที่มีน้ำท่วมขังอยู่เนื่องจากตนเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว จึงระมัดระวังเรื่องนี้มาตลอด เพราะก่อนหน้านี้ ก็เห็นอาการจากบาดแผลของชาวบ้านที่บ้านโนนปอแดง ตำบลบ้านโคก อำเภอสุวรรณคูหา เป็นแล้วต้องตัดขา และมาเห็นอาการของ พระศรีไพร เตสัง พระลูกวัดแสงอรุณพรหมวิหาร ที่เป็นบาดแผลที่ขาขวาเหนือตาตุ่มต้องไปหาหมอเป็นประจำและยังได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู จนกระทั่งผืนดินแห้งถึงได้ลงแปลงนาไปช่วยภรรยาเกี่ยวข้าว แต่ก็ได้เกิดมีบาดแผลเกิดขึ้นที่บริเวณขาด้านซ้าย หลังจากไปลงนาเกี่ยวข้าว ทั้งที่ผืนนาก็ไม่มีโคลนตมและน้ำอยู่ จึงเชื่อว่าผลที่ทำให้เกิดบาดแผลในครั้งนี้ เนื่องจากแปลงนาของตนอยู่ในที่ลุ่ม รอบๆ จะมีแต่ไร่อ้อยและมีการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดวัชพืชกันทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนั้นด้านกำนันยังได้มีการแจ้งเตือนให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ของตำบลบุญทัน ทำการประชาสัมพันธ์ทางหอกระจายข่าวให้ชาวบ้านได้ทราบถึงพิษภัยของสารเคมีเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง และอยากให้เกษตรกรได้ใช้สารเคมีในปริมาณตามคำแนะนำที่ทางบริษัทแนะนำไว้ ซึ่งส่วนมากเกษตรกรจะเพิ่มปริมาณสารเคมีผสมในน้ำให้มากขึ้น จึงเป็นเหมือนกับการเพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลมีมาตรการในการควบคุม ก็จะดี เพราะคนที่ใช้สารเคมีส่วนหนึ่งใช้แล้วก็จะป้องกันตนเอง คนไม่ได้ใช้ ไม่รู้ว่าพื้นที่ที่มีการฉีดพ่นยา จึงไม่ได้ป้องกันตนเอง อยากให้มีมาตรการแบ่งเขตแดนในการใช้ยา
ด้าน พระศรีไพร เตสัง กล่าวว่า จากการออกไปเดินบิณฑบาต ผ่านสวนยางพาราขณะนั้นมีฝนตกคิดว่าน้ำจากสวนยางพาราที่มีการฉีดพ่นสารเคมียากำจัดวัชพืชได้ไหลมากับน้ำ และทำให้เกิดบาดแผลบวมเป็นอาการของโรคหนังเน่าต้องไปนอนรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู เป็นเวลาหลายวัน ซึ่งขณะนี้อาการก็เริ่มดีขึ้น แผลเริ่มแห้งแล้วเช่นกัน
ด้านหลวงพ่อสิงห์ กัตปุณโย เจ้าอาวาสวัดแสงอรุณพรหมวิหาร กล่าวว่า ที่บริเวณเท้าซ้ายเหนือตาตุ่มเล็กน้อย ได้มีบาดแผลเล็กน้อย ในวันนั้นได้มีญาติโยมนำยาฆ่าหญ้ามาฉีดพ่นในพื้นที่บริเวณวัด และเห็นว่าฉีดพ่นไปได้หนึ่งวันแล้ว หญ้ายังไม่มีอาการแห้งเหี่ยวตายเลยไปเดินดู ตั้งแต่นั้นมาบาดแผลก็เริ่มมีการขยายเพิ่มขึ้น จนเป็นแผลขนาดใหญ่ เป็นอาการของโรคหนังเน่า จนต้องเข้ารักษาตัวในนอนในโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ซึ่งตอนนี้อาการก็เริ่มดีขึ้น