ส่งท้ายปีเก่า คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

“มติชน” วันนี้ตรงกับ 31 ธันวาคม วันสุดท้ายของปี 2560 พอดี พรุ่งนี้ก็เปลี่ยนผ่านสู่ปีใหม่ 2561

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้บางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไปด้วย

เมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ความรู้สึกต่อปีใหม่ไม่เหมือนกับเดี๋ยวนี้

สมัยก่อนโน้น ปีใหม่กันทีฮิตที่สุดคือการส่ง ส.ค.ส. หรือโปสการ์ดอวยพรปีใหม่

Advertisement

ถ้าเติบโตมาในสมัยโน้นและยังจำกันได้ จะทบทวนได้ถึงภาพร้านขาย ส.ค.ส.ที่แปลว่า “ส่งความสุข” มีอยู่ทุกมุมของเมือง

ออกแบบกันสารพัด

บริษัทห้างร้านต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทที่มีชื่อเสียง ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะต้องออกแบบ “ส.ค.ส.” ที่มีเอกลักษณ์ทั้งของตัวเอง และของปีนั้น เพื่อส่งให้ลูกค้าหรือผู้ที่มีความสัมพันธ์กัน

Advertisement

ที่ส่งไปพร้อมๆ กันเป็นปฏิทิน ส่วนใหญ่เป็นปฏิทินแขวนข้างฝา จะเลือกรูปอะไร รูปไหนมาทำปฏิทินเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก

สมัยโน้นเป็นอย่างนั้น

แต่มาถึงสมัยนี้ การ “ส่งความสุข” เปลี่ยนไป อย่าว่าแต่การ์ดเลยที่หายไป กระทั่งคำว่า “ส.ค.ส.” หากมีใครสักคนหยิบขึ้นมาพูดถึง คนรุ่นใหม่น่าจะน้อยคนมากที่รู้ว่าหมายถึงอะไร

พนักงานส่งจดหมาย ที่เรียกว่า “บุรุษไปรษณีย์” ไม่ต้องทำหน้าที่แบก “ถุงส่งความสุข” ไปเที่ยวแจกเหมือนที่ผ่านมาแล้ว

โลกออนไลน์ส่งผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตกันหมดแล้ว

ส.ค.ส.ส่งได้มากมาย และรวดเร็ว

ช่วงเวลาแห่งปีใหม่ก็เช่นกัน

เมื่อก่อนแม้จะมีความรู้สึกกับปีใหม่มากมาย แต่กิจกรรมไม่มีอะไรกันมาก เหมือนรับรู้ว่าจะเปลี่ยนปี โดยกระตุ้นเตือนจากเพลงที่เปิดกันในวิทยุทรานซิสเตอร์

ให้อารมณ์ความรู้สึกที่สดใหม่บางอย่าง แต่ที่สุดผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตมากนัก

สำหรับคนชนบทเป็นโอกาสเข้าเมือง ซื้อตั๋วดูหนังกันจนแน่นหน้าโรง

แต่เดี๋ยวนี้คือ ท่องเที่ยว ไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ

หรือไม่ก็หาร้านอาหารแบบพิเศษ สำหรับใช้เวลาร่วมกันของคนในครอบครัว

กลับมาพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยว ในมุมของอาหารการกิน

ก่อนหน้านั้น ถ้าลองว่าออกจากบ้าน จะต้องเตรียมอาหารใส่ห่อ ใส่อวย ใส่ปิ่นโต ไปกินระหว่างเดินทาง เพราะไม่มีร้านอาหารมากมายให้แวะเหมือนทุกวันนี้

เดี๋ยวนี้ แค่ปั๊มน้ำมัน ก็จบครบเครื่อง การเดินทางจึงสะดวกสบาย ไม่ยุ่งยากเหมือนก่อนหน้านั้น

แต่อย่างว่า อารมณ์ความรู้สึกของการเดินทางที่สะดวกขึ้นไม่สามารถที่จะสร้างความรู้สึกพิเศษเหมือนที่เคยเป็นมา

สังคมที่เชื่อมถึงกันมากขึ้น ทำให้ความตื่นเต้นในเรื่องอาหารการกินแทบไม่มีเหลือ

สมัยก่อนเดินทางแต่ละปีได้ไปกินอาหารพื้นถิ่นที่ไปถึง เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ของประสบการณ์

แต่เดี๋ยวนี้ ในทุกพื้นที่มีอาหารจากทุกภาคไปเปิดขาย

เลือกกินกันได้เลย

ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดจากการเดินทางหายไปไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม การเดินทางสะดวกขึ้นทั้งจากถนนหนทาง และความสะดวกสบายมีประสิทธิภาพของยานพาหนะ ทำให้คนคิดท่องเที่ยวกันมากขึ้น

ด้วยว่าถึงอย่างไรการท่องเที่ยวก็ยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ

ดูเหมือนว่าคนเราแม้ชีวิตส่วนใหญ่จะดำเนินซ้ำซากอยู่ในวงจรเดิม แต่เมื่อมีโอกาสต่างหาทางดิ้นรนให้หลุดไปจากความจำเจนั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image