“ไพบูลย์” เผย ได้ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูปตามเกณฑ์ที่กม.กำหนดแล้ว ชี้ช่องทาง “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯคนกลาง ช่องม.272 เหมาะสุด
เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการจัดตั้งพรรคประชาชนปฏิรูปว่า ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2560 กำหนด การจัดตั้งพรรคใหม่จะต้องมีผู้ร่วมก่อตั้งไม่ต่ำกว่า 500 คน โดยจะต้องมีทุนประเดิม 1 ล้านบาท จากผู้ร่วมก่อตั้งพรรคคนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ซึ่งขณะนี้เรามีผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเกิน 500 คนแล้ว ถือได้ว่าเข้าเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนดแล้ว แต่ตั้งใจว่าระหว่างที่รอเวลาตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ที่กำหนดให้ยื่นจัดตั้งพรรคการเมืองได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นไปนั้น ทางเครือข่ายฯจะหาผู้ร่วมก่อตั้งพรรคให้ครบ 1,000 คน เพื่อที่จะเก็บเงินทุนประเดิมเพียงคนละ 1,000 บาทให้ครบ 1 ล้านบาท และเมื่อถึงเวลาตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 เราก็จะขออนุญาตคสช.ประชุมผู้ร่วมก่อตั้งเพื่อรับรองข้อบังคับ แต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคก่อนที่จะนำเรื่องยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอจดทะเบียนพรรคอย่างเป็นทางการ โดยกกต.จะใช้เวลาประมาณ 45 วัน คาดว่า กลางเดือนพฤษภาคม พรรคประชาปฏิรูปก็จะได้การรับรองการจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองได้
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวคิดว่า เส้นทางที่ดีที่สุดของการกลับมาเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ ก็คือการวางตัวในฐานะคนกลางที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไหนทั้งสิ้น ดังนั้น การมาตามช่องทางตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง โดยการรับเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกฯในการประชมร่วมรัฐสภา หลังจากที่รัฐสภาไม่สามารถเลือกบุคคลอันเป็นรายชื่อตามบัญชีของพรรคเมืองตามมาตรา 88 ที่เสนอไว้ก่อนการหาเสียง น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะการเข้ายอมเป็นบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง จะทำให้สูญเสียความเป็นกลางไป ดังนั้น จึงควรอยู่นอกบัญชีพรรคการเมือง ซึ่งวิธีดังกล่าวก็ยังเป็นเส้นทางตามรัฐธรรมนูญเหมือนกัน
เมื่อถามว่า พรรคประชาชนปฏิรูปที่อยู่ระหว่างการเตรียมจัดตั้งจะไม่ใส่อยู่ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ในบัญชีนายกฯของพรรค นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็สุดแล้วแต่ท่าน พรรคประชาชนปฏิรูปจะสนับสนุนท่านทุกทาง แต่ตนยังคิดว่า ถ้าท่านมีชื่ออยู่กับพรรคในพรรคหนึ่งจะทำให้เสียความเป็นคนกลางหรือไม่ เรื่องการเลือกตั้งก็ควรให้พรรคการเมืองต่างๆแข่งกัน แต่เมื่อถึงกระบวนการแรกแล้วแต่ไม่สามารถเลือกหัวหน้าพรรคการเมืองตามบัญชีได้ เพราะเสียงไม่พอเลือก พรรคก็จะเป็นแกนนำรวบรวมสมาชิกรัฐสภา ทั้งส.ส. ส.ว.ที่คิดเห็นตรงกันให้ได้เกิน 375 เสียงเพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์รอไว้เลย ซึ่งแนวทางดังกล่าว ตนมองว่าเป็นทางออกประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านที่มีความราบรื่นสงบเรียบร้อย