กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศครบรอบ 64 ปี มุ่งเน้นทำงานเชิงรุกส่งเสริมผู้ประกอบการเจาะตลาดเข้มข้น พร้อมลงนาม MOU ใน 5 เรื่องสำคัญกับพันธมิตร

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศครบรอบวันสถาปนาปีที่ 64 ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานเชิงรุก ขยายขอบเขตความรับผิดชอบให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก พร้อมเผชิญความท้าทายในทุกมิติ บูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งรัด ชูพันธกิจล่าสุดตอกย้ำการดำเนินงานเชิงรุกด้วยการลงนามบันทึกความร่วมมือ 5 หัวเรื่องสำคัญกับพันธมิตร

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงานครบรอบวันสถาปนากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปีที่ 64 ว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญยิ่งของกระทรวงพาณิชย์ เป็นทัพหน้าสนับสนุนภาคการค้าของประเทศ รับผิดชอบภาคการส่งออกซึ่งเกี่ยวพันกับภาคธุรกิจและผู้ประกอบการจำนวนมาก ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่ในบางครั้งไม่สามารถควบคุมและคาดเดาได้ ไม่ว่าจะเป็นจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า หรือจากปัญหาภัยธรรมชาติรุนแรงต่างๆ เป็นงานที่มีความท้าทาย ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและปรับเปลี่ยนไปตามบริบทของสังคม เศรษฐกิจ และความต้องการของตลาดโลก จึงจำเป็นต้องพัฒนาให้ก้าวหน้าทันต่อเหตุการณ์ และสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ

“กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดยุทธศาสตร์สำหรับภาคการค้าระหว่างประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยมุ่งเน้นการยกระดับเศรษฐกิจการค้าของประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าและภาคบริการ การเสริมสร้างขีดความสามารถผู้ประกอบการ SMEs และการพัฒนาการอำนวยความสะดวกทางการค้ารองรับเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงพาณิชย์ให้ประสบผลสำเร็จ”

ด้าน นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของไทยปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติ อีกทั้งแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อให้เกิดการบูรณาการระหว่างองค์กร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภารกิจของกรมในระยะหลังจึงได้ขยายขอบเขตความรับผิดชอบให้กว้างขึ้นเพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจยุคใหม่ ให้สามารถนำพาผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ได้แก่ การเร่งพัฒนาด้านการค้าบริการซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่มีศักยภาพสูงมากของไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการค้าสินค้า การส่งเสริมการออกไปลงทุนและประกอบธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีความเชื่อมโยงกับภาคการค้าอย่างแนบแน่น และการสนับสนุนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Thaitrade.com เพื่อเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าไทยในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างครบวงจร

Advertisement

ขณะเดียวกัน ภารกิจหลักดั้งเดิมก็ยังคงมุ่งเน้นในทุกด้านอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการเร่งพัฒนาผู้ประกอบการให้ผลิตสินค้าและบริการโดยเน้นการใช้นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างแบรนด์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกเชิงรุก และแสวงหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ ลงลึกถึงในระดับเมืองสำคัญ โดยไม่ละเลยที่จะรักษาส่วนแบ่งในตลาดหลัก ตลอดจนการที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้เริ่มมีผลบังคับใช้ในปีนี้ จะเป็นปัจจัยเสริมให้การค้าการลงทุนภายในภูมิภาคขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากของไทย

สำหรับอีกหนึ่งพันธกิจสำคัญสำคัญล่าสุดของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่แสดงให้เห็นถึงการมุ่งทำงานเชิงรุกร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อส่งเสริม ผลักดัน และช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศ คือการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ใน 5 หัวเรื่องสำคัญ ได้แก่ ความร่วมมือในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สินค้าและธุรกิจบริการฮาลาล ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ความร่วมมือ โครงการ “SMEs Genius Exporter” กับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ความร่วมมือการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในด้านการค้าระหว่างประเทศ กับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ความร่วมมือเพื่อการผลักดันและพัฒนาผู้ประกอบการสู่การค้าระหว่างประเทศ กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนข้อมูลข่าวสาร แลกเปลี่ยนความรู้ และความคิดเห็นระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวรวมถึงสนับสนุนการจัดแสดงผลงานการออกแบบ และการประชาสัมพันธ์ผลงานของนักออกแบบไทย กับ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ซึ่งทั้งหมดนี้คือแนวทางการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ตลอดจนส่งเสริมการดำเนินงานด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image