จากกรณี นุสบา ปุณณกันต์ ได้โพสต์ภาพนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล กำลังให้สายเกลือแร่ทางเส้นเลือดโดยนุสบา ได้เขียนอธิบายว่า “ขออนุญาตแจ้งข่าวเรื่อง ขณะนี้โรคท้องเสียกำลังระบาดจาก เชื้อ Rotavirus อาการท้องเสียถ่ายเหลวรุนแรงมาก หลายครั้ง มีอาเจียนร่วมด้วย รวมทั้งมีไข้และปวดท้อง เสียน้ำและเกลือแร่กว่าจะหายใช้เวลา 5-10 วัน สัมผัสเชื้อได้ทั่วไปโดยที่เราไม่รู้ตัว อาจล้างมือไม่สะอาด ได้รับเชื้อโดยสัมผัสวัตถปนเปื้อนหรือบริโภคอาหาร&เครื่องดื่มที่ติดเชื้อ หมอบอกว่าไม่มียาแก้ท้องเสียตัวนี้ ต้องให้น้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ อุจจาระถ่ายออกมาเรื่อยๆจนกว่ามันจะหยุดเอง ป้องกันโดยล้างมือให้สะอาดบ่อยๆนะคะ อันตรายมากๆค่ะ ติดต่อทางสัมผัส อาหารปนเปื้อน ไม่สะอาด ดูแลสุขภาพนะคะ นุสร่วงไปคนหนึ่งแล้ว ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ปัจจุบันคนกังวลเนื่องจากพบในผู้ใหญ่ นพ.อัษฎางค์กล่าวว่า การที่พบในผู้ใหญ่เพราะมาจากการปฏิบัติตัว ทั้งอาหาร เราต้องเลือกอาหารที่สุก สะอาด และต้องล้างมือบ่อยๆ และต้องเลือกร้านที่มีคุณภาพ เรียกว่าพฤติกรรมการรับประทานก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่มีทั้งร้อน ทั้งหนาว และมีฝนตก ซึ่งย่อมทำให้เชื้อไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงและแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น และอาจทำให้คนที่สุขภาพไม่ดีไม่สามารถรับกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ จนทำให้เชื้อไวรัสเข้ามากระทบต่อสุขภาพ เกิดภาวะเจ็บป่วยง่ายขึ้น
เมื่อถามว่าการพบโรต้าไวรัสในผู้ใหญ่เพราะเชื้อเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ รองอธิบดี คร.กล่าวว่า เชื้ออาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็ได้ ซึ่งทางนักวิชาการของกรมติดตามเรื่องนี้อยู่ แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่อยากเตือนคือ อากาศที่เปลี่ยนแปลงมีผลมาก ต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ทานอาหารที่มีคุณค่า และอะไรที่มีความเสี่ยงต่อร่างกาย อย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ก็ควรหลีกเลี่ยง และขอย้ำว่า เชื้อโรต้าไวรัส สามารถพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะพบในผู้ใหญ่ เพียงแต่ไม่ได้มาก แต่การเจ็บป่วยนั้นขึ้นอยู่กับร่างกาย รวมไปถึงปริมาณของเชื้อที่ได้รับ และสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยทั้งหมด ซึ่งช่วงนี้จะพบว่าคนป่วยอาหารเป็นพิษมากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าอาหารเป็นพิษจะมาจากโรต้าไวรัสอย่างเดียว