กรมสุขภาพจิตจัดงานวันเด็ก มอบโอกาสให้น้องๆกลุ่มบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา  

เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่สถาบันราชานุกูล ได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ “พัฒนาอย่างยั่งยืน กลมกลืนในสังคม” (Inclusiveness and sustainable development) ซึ่งจัดเป็นประจำทุกๆ ปี ให้กับเด็กๆ กลุ่มที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา

โดย น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตให้ความสำคัญกับพัฒนาการในเด็กปฐมวัย และเน้นการเฝ้าระวังเพื่อดูแลช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมและอารมณ์ในเด็กวัยเรียน ซึ่งพบว่า  ในจำนวนประชากรเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ในประเทศไทยมีจำนวน 13,825,194 คน เป็นเด็กด้อยโอกาสอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน ส่วนใหญ่พบเป็นเด็กยากจนร้อยละ 80 และ ร้อยละ 6 ที่เป็นกลุ่มเด็กหลายชาติพันธุ์ ที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนสิทธิด้านสาธารณสุขทั้งหลักประกันสุขภาพและการรักษาที่ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานของรัฐที่รับเข้ารักษาต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเอง เพื่อมิให้เด็กกลุ่มนี้ขาดโอกาสทางการรักษาพยาบาล และกลุ่มเด็กที่มีความพิการทางสติปัญญาและออทิสติก เป็นจำนวน 220,842 คน โดยมีความด้อยโอกาสในหลายด้านรวมอยู่ด้วยนั้น พบว่าเข้าถึงระบบบริการทางสุขภาพ เพียงร้อยละ 5.59  และเข้าถึงระบบการศึกษา เพียงร้อยละ 25.33  ซึ่งเด็กสองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงระบบบริการด้านสาธารณสุขและด้านการศึกษามากที่สุด อันจะส่งผลถึงการเจริญเติบโตตามพัฒนาการอย่างสมวัยและประเทศชาติ  ยังเสียโอกาสที่สำคัญในการมีบุคลากรที่มีคุณภาพในอนาคตอีกด้วย

น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า   ในปี 2556-2558 ที่ผ่านมากรมสุขภาพจิตได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วางแผนการดำเนินงานและประเมินผลร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และดำเนินโครงการต่อเนื่อง โดยหน่วยงานในท้องถิ่นภายใต้ความรับผิดชอบของกรมสุขภาพจิตให้กับโรงเรียนเฉพาะความพิการ ทั้ง 19 แห่ง ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา จากผลการดำเนินงานในภาพรวม ยังพบว่า เด็กนักเรียนมีปัญหาสุขภาพร่างกายหรือสุขภาพช่องปากและฟันสูงมากถึงร้อยละ 91.4 ในปี 2557 และร้อยละ 90.7  ในปี 2558 สำหรับในปี 2561 นั้น ได้ดำเนินงานประสานความร่วมมือระหว่างบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรด้านสาธารณสุข และบุคลากรพัฒนาสังคมในพื้นที่ เพื่อให้เกิดระบบการดูแลอย่างเป็นองค์รวมให้กับบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาและพิการซ้ำซ้อนในแต่ละท้องถิ่น โดยทำงานแบบบูรณาการ ทุกฝ่ายมีบทบาทชัดเจนบนเป้าหมายเดียวกัน คือช่วยให้เด็กพิการได้เข้าถึงการดูแลสุขภาพที่เป็นองค์รวมและเรียนรู้ได้สูงสุด โดยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นอิสระ (Inclusiveness Independence)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image