วันที่ 11 ม.ค.ที่วัดปู่บัว ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีมารศาสนาย่องเข้ามาขโมยตู้บริจาคภายในพระอุโบสถของวัดปู่บัว กลางวันแสกๆ โดยย่องเข้ามาในโบสถ์ มาดูลาดเลา แล้วหลบกล้องวงจรปิด ใส่ถุงมือยาง จากนั้นยกตู้บริจาควัดไปข้างโบสถ์ งัดเอาเงินบริจาคไปพันกว่าบาท อย่าง ไม่กลัวบาปบุญคุณโทษ โดยมีกล้องวงจรปิดของวัดจับภาพพฤติกรรมของคนร้าย เอาไว้ได้
ด้านพระครูสิริวิริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปู่บัว เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ได้มีมารศาสนาเข้ามาขโมยเงินทำบุญในตู้บริจาค โดยมีพฤติกรรมมาดูลาดเลาก่อน และพอได้จังหวะไม่มีคน ก็ฉวยโอกาสยกตู้บริจาคออกไปจากพระอุโบสถแล้วไปใช้อุปกรณ์งัดกุญแจออก บริเวณประตูหน้าโบสถ์ ได้เงินไปพันกว่าบาท และทิ้งตู้บริจาคไว้ ซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย โดยชาวบ้านที่ร้านค้าเห็นพฤติกรรมแปลกๆ มีพิรุธ ก็เลยรีบโทรแจ้งกรรมการวัด จากนั้นมาตรวจสอบพบว่า ตู้บริจาคโดนยกออกไปด้านนอกและเงินทำบุญหายไป โดยผู้ก่อเหตุ อาศัยช่วงที่เจ้าอาวาสและพระลูกวัดไปกิจนิมนต์ ส่วนกรรมการวัดก็ไม่มีใครอยู่ เลยทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เจ้าอาวาสเล่าให้ฟังต่อว่า ที่ผ่านมา วัดก็เคยโดนขโมยเงินในตู้บริจาคมาบ้างแล้ว เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งทางวัดก็ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม แต่บางทีทางวัดก็ไม่ได้เอาเงินในตู้บริจาคออก จึงทำให้เป็นช่องทางให้โดนขโมยเงินไป ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี ก็ได้มีการจัดกำลังมาดูแลเป็นประจำ ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน แต่ก็ยังไม่พ้นมารศาสนาหาช่องทางมาฉกเงินทำบุญวัดไปจนได้
เบื้องต้น จนท.ตำรวจ ชุดป้องกันและปราบปรามพร้อมด้วยทีมชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้ลงพื้นที่มาติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่วัด เพื่อเก็บข้อมูลรายละเอียดรุปพรรณสัณฐานของผู้ก่อเหตุ และสอบปากคำชาวบ้านที่เห็นชายผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว ทั้งนี้ยังได้เก็บลายนิ้วมือ โดยคาดว่าน่าจะอายุประมาณ 30-35 ปี พฤติกรรม คือ มีการมาสังเกตลาดเลาและอาศัยจังหวะช่วงกรรมการวัดไม่อยู่ และพยายามเลี่ยงมุมกล้องวงจรปิด และมีการสวมถุงมือยาง เพื่ออำพรางลายนิ้มมืออีกด้วย โดยมีการยกตู้บริจาคไปงัดข้างนอกโบสถ์ และเอาเงินทำบุญไป ทั้งนี้อย่างไรก็ดีทางจนท.ตำรวจ จะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
