ดูวิธีเลี้ยงลูกของดารา เมื่อเด็กอยู่ในความสนใจ จะทำอย่างไรให้ ‘ติดดิน’

แม้ว่าจะ ‘เป็นเด็ก’ ที่ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความน่ารักเหมือนกัน แต่กระนั้นในความเป็นลูกดาราคนดังคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เหล่าลูกๆ ของดาราดูจะมีความพิเศษกว่าเด็กหลายคน ตรงที่ได้รับความรัก ความสนใจ ได้ของขวัญ และต่างๆ นานาตั้งแต่แรกเกิด

อย่างไรก็ดี เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย บอกว่า สำหรับเขาและภรรยาก็เลี้ยงลูกแบบธรรมดาสุดสุด

เพราะในความรู้สึกส่วนตัว “ลูกดาราไม่ได้พิเศษกว่าคนอื่นหรอก”

“ลูกของทุกคนก็พิเศษหมด”

Advertisement

“ก็เลี้ยงแบบตามสไตล์เราเลย”

อีกทั้ง “ไม่ได้เน้นว่าจะต้องไปถ่ายภาพตอนที่เขาไปดำนา ไปถ่ายภาพตอนที่เขาอยู่กับธรรมชาติ คือเราไปก็ไปเดินห้างนะ ว่ายน้ำคลองเราก็ถ่าย เป็นไปตามความจริง”

และก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องเลี้ยงลูกให้เขาติดดิน “เพราะว่าตั้งแต่เกิดเขาก็เป็นแบบนี้อยู่ แล้วเราคนเป็นพ่อแม่ ก็พอใจมาก เพราะเราเลี้ยงเขา เขาใช้ชีวิตกับเรา ก็จะเป็นแบบเรา โดยที่เราไม่ต้องปลูกฝังอะไร” เปิ้ลพูดพลางยิ้ม

Advertisement

ก่อนบอกต่อว่าตอนนี้ลูกทั้ง 4 ของเขา คือ ศิศิรา ศิลาชัย (ออกัส) ,นครา ศิลาชัย (ออก้า),นครินทร์ ศิลาชัย (ออกู๊ด) ,ศิรีกร ศิลาชัย (ออเกรซ) ซึ่งมีอายุได้ 7 , 6 , 2  และ 1 ปี ตามลำดับ ต่างก็ชินกับการไปไหนมาไหนแล้วมีคนห้อมล้อม สนใจ

“จริงๆ เขาไม่รู้เรื่องหรอกว่าเพราะอะไร” เปิ้ลเล่า

“เขารู้แต่ว่าทำไมคนต้องมาตามออก้าด้วย เวลาไปเดินห้าง อย่างเวลาไปงานคนก็จะวิ่งตามถ่ายรูป ไปกินข้าว หรือเจอที่ตลาดนัดก็จะถ่ายรูป เราจะสอนเขา บอกเพราะเขารักเราไง”

ด้วยเหตุนี้ วันหนึ่งขณะออกไปขี่เจ็ทสกีด้วยกัน แล้วช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้จะตก ออก้าซึ่งสังเกตเห็นแสงอาทิตย์ที่ดูเหมือนทอดตามเจ็ทสกีเขาไปทุกที่ จึงบอกกับเปิ้ลว่า “ที่แสงตามเรามา เพราะว่าพระอาทิตย์รักเราไง”

เรื่องที่พ่อเป็นดาราที่คนสนใจ อะไรนั้น เปิ้ลว่าลูกๆ ก็ไม่รู้

“ตลอดเวลาเขาไม่เคยถาม คือเขาคงชิน เพราะตั้งแต่เกิด ก็เห็นพ่อในทีวี แล้วตัวเขาเองเขาก็เห็นตัวเองในทีวี”

ยังบอกด้วยว่า ทุกวันนี้ที่บ้านของเขามีของเล่นเด็กจำนวนมาก ซึ่ง “ไม่ได้ซื้อให้ลูกเองนะ คือมีคนเอามาให้เราประจำเลย ซึ่งต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคน”

ของเล่นเหล่านั้นเมื่อได้รับมา เขาว่าลูกๆ ก็จะเล่นอย่างสนุกสนานตามเป้าประสงค์ของคนให้

“แต่พอถึงวันหนึ่ง วัยหนึ่งที่เราคิดว่าอยู่กับคนอื่นแล้วน่าจะมีประโยชน์มากกว่า ทุกสิ้นปีเราจะพาลูกๆ เดินทางไปโรงเรียนที่ชนบท ใส่ไป 4 รถกระบะ แล้วไปให้ที่โรงเรียนที่ต่างจังหวัด”

ล่าสุดที่ไปมาก็ที่จังหวัดกาญจนบุรี  แล้วก็ให้ออกัสกับออก้า นี่แหละเป็นคนแจก

“เพราะเขาจะได้เรียนรู้ถึงความเป็นผู้ให้”

ขณะที่แม่งามทิพย์ ของ บอย ปกรณ์ , หน่อง ธนา , ภัทร และเด็กหญิงวันใหม่ ฉัตรบริรักษ์ ก็ว่า

“เหมือนสถานภาพของเขากับเด็กทั่วไปก็จะต่างกันนิดนึง ตรงที่เขาจะมีคนรู้จักเยอะ”

แต่กระนั้นเธอก็เลี้ยงวันใหม่ ซึ่งตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ตามปกติ

“แต่สิ่งที่หนึ่งที่จะสอนเขาคือ จะบอกว่าเวลาที่มีคนเข้ามาหาเยอะๆ เด็กบางทีก็ไม่พร้อม เราจะบอกกับน้องว่า เพราะเขารักวันใหม่ เขาชอบวันใหม่ เขามาทักทาย เราก็ต้องยิ้มแย้ม เวลาเขาขอถ่ายรูป เราก็ให้ วันใหม่ก็ยอมบ้างไม่ยอมบ้าง แต่ว่าส่วนใหญ่จะโอเค”

บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่วันใหม่ได้จากคนรอบข้างก็คือ มีคนเอาใจ ให้ของ

“เพราะฉะนั้นมันเป็นความเหนื่อยของแม่ที่ต้องละลายพฤติกรรมนั้น ต้องทำให้เขารู้สึกว่า เขาก็ต้องไม่ได้บ้าง ผิดหวังบ้าง สมหวังบ้าง”

“ถ้าเทียบว่าการที่เขาได้อะไรจากเรา เขาจะได้ของจากเราน้อยมาก เพราะสิ่งของนี่ วันใหม่แทบจะไม่ได้ขาดอะไรเลย แฟนคลับที่รักเขาจะฝากมาให้ เราก็จะให้ตามเหตุผล เพราะเราต้องเลี้ยงใจเขาด้วย ไม่ใช่ว่าเลี้ยงแต่ตัว ถึงเราจะมีความคิดว่า ไม่ได้ๆๆ อันนี้มีแล้ว แต่มันก็ยกเว้นในบางกรณี”

“ถ้าเทียบกับพ่อแม่คนอื่นคือ เขาจะได้จากเราน้อย”

สำหรับข้าวของมากมายที่ได้มา อย่างตุ๊กตาที่มีมากมายนั้น เธอก็ว่ายังคิดๆ อยู่ว่าถ้าเอาไปบริจาคจะดีไหม

“แต่ถ้าไปบริจาคแฟนคลับเขาจะคิดอะไรไหม”

 

ในส่วนของวันใหม่ที่งามทิพย์บอกว่า เหมือน ‘เฮียบอย’ ในความรู้สึกเธอ ตรงที่คิดเร็ว ทำเร็ว หัวแข็ง และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนั้น เธอไม่ได้คาดหวังอะไรมาก นอกจาก “อยากให้เขาดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง อาจจะไม่ได้ถูกที่สุด แต่ว่าก็อยู่ในสังคมได้ อยู่กับชีวิตครอบครัวได้ไม่เดือดร้อน”

“ความหวังของแม่ก็แค่นั้นเอง”

 

ขอบคุณ momomama1234 ple_nakorn

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image