วงจรปิดมัด มือปืนซัลโวหนุ่มวีออส สาหัส ตร.ล่าอดีตสามีแฟนสาว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 มีนาคม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมตำรวจ สน.ท่าเรือ เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันบนถนนพระราม 4 ขาเข้า บริเวณแยกคลองเตย ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน ฆภ 6449 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ช่องทางซ้าย บริเวณกระจกหน้ารถฝั่งคนขับมีร่องรอยถูกยิง 7 นัด และท้ายรถมีรอยกระสุนอีก 1 นัด

image

นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม.ตกบนพื้น 6 ปลอก ส่วนคนขับทราบชื่อนายสุวิทย์ อนันต์นทีไชย อายุ 48 ปี บาดเจ็บสาหัส นำส่ง รพ.จุฬาลงกรณ์

Advertisement

image

จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. รถยนต์คันดังกล่าวถูกคนร้าย 2 คน ขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนไล่ยิงมาตามถนนพระราม 4 เมื่อรถยนต์จอด คนร้ายลงมากระหน่ำยิงอีกหลายนัดก่อนหลบหนีไป โดยภายในรถมีผู้หญิงที่นั่งข้างมาด้วยได้ช่วยเหลือนำคนขับไปส่งโรงพยาบาลทันที เบื้องต้นถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 5 นัด และที่ข้อมือขวาอีก 1 นัด ล่าสุดมีรายงานว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังไม่สามารถสรุปประเด็นการก่อเหตุได้ ต้องรอสอบปากคำพยาน โดยเฉพาะผู้หญิงที่นั่งมากับผู้บาดเจ็บ รวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบหาภาพจากกล้องวงจรปิดรอบที่เกิดเหตุ

Advertisement

ขณะที่ถนนพระราม 4 ขาเข้า ก่อนถึงแยกคลองเตย หลังเกิดเหตุ ก็มีการปิดจราจร 2 ช่องทางซ้าย แต่ภาพรวมไม่กระทบการจราจร ที่ยังคล่องตัวดี

ต่อมา พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) เปิดเผยความคืบหน้าคดี ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุทราบตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้ว โดยนำแฟนของผู้บาดเจ็บมาดูกล้องวงจรปิดทราบว่าตำหนิรูปพรรณคนร้ายนั้นคืออดีตสามีผู้เสียชีวิตที่เลิกกันมานานกว่าปีเศษ จากการสอบถามพยานบุคคลทราบว่าผู้ก่อเหตุเพิ่งกลับเข้ามาบ้านพร้อมพาหนะที่ก่อเหตุ ตรงกับหลักฐานกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้ ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวเชื่อว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีเร็วๆ นี้

พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำแฟนสาวผู้บาดเจ็บสันนิษฐานว่าเกิดจากความขัดแย้งในครอบครัวเพราะก่อนผู้บาดเจ็บจะถูกยิง แฟนสาวของผู้บาดเจ็บเคยถูกผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่มาแล้ว ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บกับผู้ก่อเหตุไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ากันมาก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image