สุจิตต์ วงษ์เทศ : อยากเรียนครู แต่ไม่ได้เรียน เลยไม่ได้เป็นครูประชาบาล

ครูบ้านนอก หนังไทยเมื่อ พ.ศ. 2521 จากบทประพันธ์ของ คำหมาน คนไค

“เรียนครู” เป็นความฝันอันสูงสุดของวัยรุ่นบ้านนอกขอกนาขณะเรียนชั้นมัธยมราว 50-60 ปีที่แล้ว

[ขอก (ไม่ใช่คอก) แปลว่า ริม, ข้าง, ขอบ เช่น อยู่ขอกนา หมายถึง อยู่ริมนา, บ้านนอกขอกนา หมายถึง อยู่หัวไร่ปลายนา หรืออยู่บ้านนอกบ้านนาป่าดง เป็นต้น และที่ว่า “แมนตาตอกขอกฟ้าตายืน” (ในตำนาน) หมายถึง พวกแมนซึ่งเป็นคนพวกหนึ่งอยู่ไกลลิบลับริมสุดขอบฟ้า]

สมัยโน้น เรียนจบชั้นมัธยมแล้วขอให้สอบเข้าได้เรียนต่อในวิทยาลัยครู (ปัจจุบันคือ ม. ราชภัฏ) ซึ่งมีไม่กี่แห่ง จากนั้นก็เข้ารับราชการเป็นครูประชาบาลในบ้านเกิด ที่เรียกตามประสาหนังไทยว่า “ครูบ้านนอก”

ในหมู่บ้านกลางดงป่าสมัยก่อนๆ การเป็นครูได้รับยกย่องนับถือพอๆ กับพระสงฆ์ แต่บางหมู่บ้านครูได้รับยกย่องมากกว่าพระสงฆ์

Advertisement

ผมเคยสมัครสอบเข้าเรียนครูทั้งบ้านสมเด็จฯ และสวนสุนันทาฯ เพราะไม่เคยเชื่อว่าตัวเองจะสอบเอนทรานส์ผ่านไปเรียนได้ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นคนไม่ฉลาด สมองทึบ คะแนนสอบไม่ดี โลกแคบมากๆ จึงมีความฝันอันสูงสุดถึงอนาคตแค่เป็นครูประชาบาล

แต่สอบไม่ผ่านวิทยาลัยครู ผมไม่ได้เรียนครู เลยอดเป็นครูประชาบาลบ้านนอก

กินเหล้า “ไม่เป็น”

Advertisement

คนบ้านนอกขอกนามีอาการตื่นกลัวอำนาจเหนือธรรมชาติและอำนาจเหนือคน

ตั้งแต่เรียนชั้นประถมที่บ้านนอกขอกนา ผมเห็นคนกินเหล้าเมายาเป็นปกติทั้งครูและชาวนา แล้วเห็นงานศพเป็นธรรมดา เพราะอยู่กับพระสงฆ์ในวัด “เป็นเด็กวัด นอนศาลา ห่มผ้าผี”

คนตายโดยเฉลี่ยอายุประมาณ 60 ปี ตอนนั้นผมอายุไม่ถึง 10 ขวบ เห็นคนอายุราว 40 ปี รู้สึกว่าเป็นคนเฒ่าคนแก่มากแล้ว ครั้นโตขึ้นเรียนมัธยมคิดว่าตัวเองน่าจะตายไม่ถึงอายุ 60 ปี เพราะคนในหมู่บ้านตายประมาณนั้น

ผมเริ่มหัดกินเหล้าเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แล้วกินเหล้ามากเมื่อทำงานหนังสือ พิมพ์, โรงพิมพ์, สำนักพิมพ์ เพราะไม่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่ยาวเกิน 60 ปี ตามที่เห็นจากบ้านนอก เลยรีบใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนตายอย่างใครๆ ในหมู่บ้าน

เมื่อ 10 ปีกว่าที่แล้วที่หยุดกินเหล้ากินเบียร์ ตอนนั้นไม่คิดจะอยู่ยาวเกิน 60 ปี แต่เหตุมาจากเบื่อตัวเอง เพราะกินเหล้า “ไม่เป็น” กินแล้วเมาชิบหาย เมื่อตื่นขึ้นมาวันรุ่งขึ้นคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่านี่เมื่อคืนกูกลับบ้านยังไง? เมื่อไร? เป็นอย่างนี้บ่อยมาก แสดงว่าทำระยำตำบอนไว้โดยไม่รู้ตัวมีมาก ทำคนอื่นเดือดร้อนไม่น้อย เลยขอหยุดตัวเองไว้แค่นั้นจากอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง จะได้ไม่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ

ที่สำคัญคือหยุดเหล้า-เบียร์ เพื่อมีเวลาทำงานเต็มที่ตามต้องการ เพราะเวลาเหลือไม่มาก

ตอนมีเวลาเหลือมากก็เสือกเอาไปกินเหล้า โดยไม่เรียนวิชาสุรา 101 (ตามที่ อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์ เขียนบอกในมติชนสุดสัปดาห์) เลยกินเหล้า “ไม่เป็น”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image