‘ความสวย’ ใครว่าไม่สำคัญ แต่ ‘ป้อง ณวัฒน์’ ยัน สวยแค่ไหน อย่างมากก็แค่ 3 เดือน!!

กลับมาโสดเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ อุบไว้ ไม่ยอมบอก

ที่บอกก็เพียง “ตอนนี้โสดแล้วครับ”

สำหรับเหตุผลที่เป็นอย่างนั้น เจ้าตัวส่ายหน้า ก่อนว่า “มันอะไรหลายๆอย่าง”

“คงเป็นคนที่…ไม่รู้ซิ” เขาทำท่าเหมือนอยากอธิบาย แต่ยังหาคำที่ตรงกับใจไม่ได้ จึงหยุดคิดสักพัก จากนั้นจึงว่า “เอางี้ คนเราชอบไม่เหมือนกัน บางคนชอบมีลูก มีครอบครัว ให้ลูกโตทันเรา แต่สำหรับผมมันอยู่ที่จังหวะชีวิตด้วย”

Advertisement

“พี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ยังไม่ได้แต่ง เป็นคนอายุมากที่ยังไม่ได้แต่งงาน เขาชอบแบบนั้น แต่อย่างพี่เจ เจตริน วรรธนะสิน แต่งงาน มีลูก ก็อีกแนว”

 “ส่วนผม ผมไม่อยากห่วงอนาคตมากจนปัจจุบันไม่มีความสุข”

“บางคนบอกเดี๋ยวต้องรีบมีลูก มีเมีย เดี๋ยวลูกโตไม่ทันเรา เดี๋ยวแก่ไป คือห่วงอนาคตมาก แต่ถามตัวเองไหมว่าพร้อมหรือยัง รักคนนี้จริงหรือเปล่า อยากอยู่ด้วยจริงไหม ไม่ใช่ว่าอยากแต่งงาน เพราะแก่แล้ว แต่งก็ได้”

Advertisement

ยกเหตุผลมาอธิบายยังไม่พอ เพราะหนุ่มหล่อยังนำคำพระมาเสริม “พระยังบอกว่าปัจจุบันสำคัญที่สุด”

ดังนั้น “ถ้าทุกวันนี้เรายังมีความสุข ไม่เดือดร้อนอะไร ก็อย่าไปคิดมากว่าถ้าแก่จะเหงาไหม คือไม่มีใครรู้หรอก จะตายเมื่อไหร่ ใครจะรู้ เอาแค่ว่าปัจจุบันมีความสุข ผมเลยมีแพลนคร่าวๆว่าถ้าเจอใครดีก็แต่งงาน ไม่ใช่ว่าไม่แต่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องแต่ง”

ส่วนขั้นตอนก่อนแต่ง คือในช่วงคบหานั้น “ผมถือคติว่า ผมไม่ต้องประกาศให้ใครรู้”

แต่ขณะเดียวกัน “ก็ไม่ได้ปิด ใครถาม ผมก็บอก เวลาไปไหนผมก็พาไป ไม่ใช่ว่าเดินห้างไม่ได้เว้ย ก็ไปปกติ ผมเป็นคนที่ใช้ชีวิตปกติมาก เห็นแล้วถามก็บอกว่าใช่ แต่ผมไม่ชอบสไตล์แบบเปิดฉากอย่างเร้าใจ แล้วเดี๋ยวก็เลิก”

“เพราะความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน สองคนก็วุ่นวายจะตายอยู่แล้ว ถ้ามีคนอื่นมาเกี่ยวข้องก็ยิ่งยุ่งไปอีก”

“จริงๆมีบทเรียนตอนแก้ว (จริญญา ศิริมงคลสกุล) ที่มันยุ่ง” เขาย้อนเล่าถึงคราวที่คบกับนักร้องสาวผู้มีชื่อเสียงและถูกจับตามองยิ่ง

“เลยรู้สึกว่าชอบเรียบๆมากกว่า”

กับผู้หญิงที่ชอบ ป้องว่าสำหรับเขาความสวยไม่สำคัญ

“เราอยู่ในวงการบันเทิง เห็นคนสวยมาเยอะก็เฉยๆ แล้วคนสวยอย่างมากก็สวยแค่ 3 เดือน หมายถึงสวยแค่ 3 เดือนแรก ถ้านิสัยแย่ ความสวยจะหายไปโดยฉับพลัน”

เหมือนอย่างบางคนที่ตอนเห็นก็รู้สึกสวยดี “แต่เวลาพูดอะไรออกมา เราตกใจ เรื่องทัศนคติ ความคิด หลุดมาแล้ว เฮ้ย ! อะไรเนี่ย”

“แล้วคนเราอยู่ด้วยกัน ที่เรียกว่าคู่ชีวิต คงไม่ใช่แบบจี๋จ๋าตลอดเวลา สวีทกันให้เต็มที่ 3-4 ปี สุดท้ายเขาก็อยู่กันแบบเพื่อนป่ะ อยู่กันแบบสบายใจ”

“คงต้องการแค่นั้นมั๊ง ผมว่า”

ส่วนจะได้ตามต้องการไหม หรือจะได้เมื่อไหร่ เขาไม่รู้จริงๆ

“ทุกวันนี้ผมไม่ได้เป็นสายขี้เหงา บ้านผมก็มีบ้านแม่ บ้านพี่สาว อยู่ในรั้วเดียวกัน แต่คนละหลัง หลานก็มี แล้วมีกิจกรรมทำเยอะ ออกกำลังกายบ้าง ไม่ได้รู้สึกว่าเหงาเลย”

“แล้วถ้าจะมีก็คงแบบอยากอยู่กับคนนี้แล้ว ไปมาเปลืองน้ำมัน มาอยู่ด้วยกันเลยแล้วกัน” บอกพลางยิ้ม

ถามไปว่าสไตล์ของป้องนั้น เวลาเจอคนถูกใจ จะใช้วิธีเดินเข้าไปจีบเลยไหม เขาหัวเราะ ก่อนจะปฏิเสธ “ไม่หรอกครับ”

“หมดยุคแล้วมั๊งที่จะเข้าไปบวกหญิงดื้อๆ ผมไม่ได้เป็นสไตล์นั้น เรามาจากโรงเรียนชายล้วน ไม่กล้าหรอก อย่างน้อยต้องลิงค์กันบ้าง อย่างเป็นเพื่อนของเพื่อน ไม่ใช่ไม่รู้จักเข้าไปซัดเลย ไม่ไหว แต่อย่างนี้เด็กรุ่นใหม่เขาทำกันใช่ไหม” เขาหันมาถาม

ก่อนจะว่า “แต่เราไม่กล้าไง”

 คือข้อสรุปที่มาพร้อมเสียงหัวเราะ

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image