คอลัมน์ไฮไลต์โลก: รัฐอุดหนุนคนถีบสามล้อ หรือแค่ประชานิยมหวังผล?!

ภาพจากแชนแนลนิวส์เอเชีย

สามล้อถีบ เป็นอีกหนึ่งพาหนะ หนึ่งวิถีการเดินทางของคนในบ้านเราที่นิยมกันเมื่อสมัยก่อน ถึงวันนี้ก็น่าจะยังพอมีคนถีบสามล้อรับจ้างให้เห็นอยู่บ้าง แต่จะเป็นตามต่างจังหวัดเสียมากกว่า หลายประเทศในแถบเอเชียใกล้ๆเราก็มีสามล้อถีบที่รูปลักษณ์ก็อาจจะต่างออกไป อย่างในกัมพูชาที่เริ่มมีสามล้อถีบเข้ามาในประเทศตั้งแต่ช่วงปี 2509 แต่ตอนนี้คนถีบสามล้อรับจ้างต่างประสบปัญหาคล้ายๆกันคือ คนนิยมใช้น้อยลง เพราะหันไปใช้รถเครื่องแทน ทำให้คนถีบสามล้อรับจ้างได้รับผลกระทบไปเต็มๆจากการมีรายได้ลดลง นั่นยังทำให้หลายคนถึงกับถอดใจเลิกอาชีพถีบสามล้อรับจ้างไปเลยก็มีจำนวนมาก

แต่ตอนนี้มีข่าวดีเข้ามาสำหรับคนถีบสามล้อรับจ้างในกัมพูชา เพราะสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งโครงการกองทุนคนถีบสามล้อขึ้น ที่ผู้ประกอบอาชีพนี้จะต้องเข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมในโครงการ แล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายที่รวมถึงการรักษาฟรีในโรงพยาบาลรัฐ ได้รับเงินอุดหนุนค่าเช่ารถสามล้อจากภาครัฐรายละ 1,680 บาท มีอาหารฟรีให้ทุกเดือน และยังจะได้เสื้อผ้าใหม่อีกคนละ 2 ชุดต่อปี

ตามข่าวยังว่าสมเด็จฯฮุน เซน ผู้หวังจะเป็นนายกรัฐมนตรีตลอดกาล ยังจะสมทบเงินส่วนตัวอีก 500 ล้านเรียล หรือราว 4 ล้านบาท และยังจะมอบเงินอีกราว 640,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน สมทบเข้ากองทุนในโครงการนี้ที่ยังเปิดรับเงินบริจาคจากผู้บริจาครายอื่นๆด้วย

ภาพจากแชนแนลนิวส์เอเชีย

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แสดงความหวังว่าโครงการนี้จะช่วยทำให้พี่น้องผู้ประกอบอาชีพถีบสามล้อรับจ้างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่จากการประเมินอย่างคร่าวๆเงินกองทุนที่มีอยู่ตอนนี้จะสามารถอุ้มกลุ่มคนถีบสามล้อรับจ้างไปได้ประมาณ 2 ปี แม้ใจจริงสมเด็จฯฮุน เซนอยากจะให้โครงการนี้ดำเนินต่อไปเป็นการถาวร

Advertisement

ก็ไม่รู้ว่านโยบายประชานิยมนี้ของผู้นำกัมพูชาจะช่วยยื้อต่อชีวิตคนถีบสามล้อไปได้ตลอดรอดฝั่งดั่งใจหวังหรือไม่ เมื่อยังต้องเผชิญกับปัญหาการใช้บริการสามล้อถีบของคนในพื้นที่ที่ลดลงไปอย่างมาก เฉพาะในกรุงพนมเปญตอนนี้ ก็แทบจะมองหาสามล้อถีบไม่เจอ

ข้อมูลจากสมาคมอนุรักษ์รถสามล้อและผู้ประกอบอาชีพถีบสามล้อ(ซีซีซีเอ) ระบุว่า ในช่วงปี 2542 สามล้อถีบที่มีวิ่งรับจ้างอยู่บนถนนในกรุงพนมเปญ มีอยู่ราว 1,500 คัน แต่ตอนนี้มีเหลืออยู่ 200-300 คันเท่านั้น

ขณะที่กลุ่มคนถีบสามล้อรับจ้างบอกว่าตอนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มองว่าสามล้อถีบเป็นเสนห์ของโลกตะวันออกที่บ้านเมืองเขาไม่มี กลายเป็นเสาหลักเดียวที่จะช่วยต่อชีวิตของคนมีอาชีพถีบสามล้อและครอบครัวของพวกเขาได้

Advertisement

เอล เนต ในวัย 61 ปี หนึ่งในคนถีบสามล้อรับจ้างที่มีเหลืออยู่ในกัมพูชาทั้งสิ้น 250 คน บอกว่าในยุคสามล้อถีบรุ่งเรือง พวกเขาสามารถหาเงินจากการถีบสามล้อได้ถึงวันละ 480 บาท แต่ทุกวันนี้หาได้อย่างเก่งแค่วันละ 160 บาท และตอนนี้ลูกค้าหลักคือ นักท่องเที่ยว ที่ทำให้พวกเขายังพออยู่ได้

เป็นอีกหนึ่งอาชีพเก่าแก่ที่ก็ต้องลุ้นว่าจะไปรอด หรือไม่รอด หรือจะกลายเป็นอีกตำนานไปเหมือนหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เมื่อยุคผันเปลี่ยน กาลผันแปร ก็ถูกกลืนให้ล้มหายตายจากไป…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image