จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับ กรมการปกครอง ตรวจจับ สถานบริการ อาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท พบหญิงสาวหลายสัญชาติ รวม 113 คน เบื้องต้นมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี รวม 6 คน และศาลออกหมายจับ น.ส.ศศิธรหรือตูน วีระเทพสุภรณ์ อายุ 46 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน และกรรมการผู้ขอใบอนุญาตเปิดสถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา ที่ 78/61 ลงวันที่ 16 มกราคม 2561กับพวกรวม 8 คน ในความผิด 13 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ร.บ.ค้าประเวณี พ.ร.บ. ตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ค้าประเวณี โดย น.ส.ศศิธรเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เมื่อช่วงเย็นวันที่16 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มกราคม ที่ สน.วังทองหลาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง น.ส.ศศิธร เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และถูกนำตัวมาคุมขัง ที่ สน.วังทองหลาง พบว่า น.ส.ศศิธร ถูกขังเดี่ยว แยกจากผู้ต้องหาคดีอื่นอีก5คน ที่มีความเครียดและร้องไห้ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า โดยมีญาติมาขอเยี่ยม แต่เมื่อพบผู้สื่อข่าวจึงหลบออกไปนอกโรงพักทันที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังในช่วงบ่ายวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าน.ส.ศศิธร ขณะที่ถูกคุมยังมีอาการเครียด นอนไม่หลับและร้องไห้อยู่ตลอดเวลา โดยมีญาติมาเยี่ยมและให้กำลังใจอยู่ภายนอก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เกรงว่าผู้ต้องหาจะเครียดและคิดสั้น นอกจากนี้ในการเข้าเยี่ยมยังตรวจตราอาหารที่ญาตินำมาเยี่ยม เพราะเกรงว่าจะใช้อุปกรณ์(ไม้เสียบอาหาร) ทำร้ายตัวเอง
นอกจากนี้ ช่วงบ่าย พ.ต.ท.สุภัทร์ ธรรมธนารักษ์ ผอ.กองคดีค้ามนุษย์ และคณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะเดินทางเข้ารับสำนวนคดีวิคตอเรียซีเครท จากพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง หลังจากเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา นายไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุมัติให้รับคดีอาญา เลขที่ 43/2561 ของสน.วังทองหลาง มาสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคสอง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ. ศ. 2547 โดยมอบหมายให้กองคดีค้ามนุษย์ เป็นผู้รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนในคดีพิเศษดังกล่าว
ต่อมาเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วังทองหลาง ควบคุมตัว น.ส.ศศิธร เข้าขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ และข้อหาอื่นรวมทั้งหมด 13 ข้อหา ท้ายคำร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวมีอัตราโทษสูงและเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ต่อมาญาติ น.ส.ศศิธร ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดจำนวน 3 ล้านบาทขอปล่อยชั่วคราว
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์สภาพแห่งข้อหาและลักษณะความผิดตามคำร้องฝากขัง ประกอบกับพนักงานสอบสวนผู้ร้องคัดค้าน เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของกิจการที่มีการจับกุม ในชั้นนี้เห็นควรให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปพลางก่อน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัว น.ส.ศศิธร ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ต่อไป
