นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี นายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, นายดิสทัต โหตระกิตย์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานฝ่ายจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายกำธร วังอุดม ประธานคณะกรรมการดำเนินงานฝ่ายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.เกศินี วิฑูรชาติ, นายสุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลจุฬาลงกรณ์ฯ และนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลธรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าวฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 72 ที่ลานกิจกรรมสยามสแควร์วัน เมื่อวันที่ 18 มกราคม
นายดิสทัตกล่าวว่า ฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 72 จะมีขึ้นที่สนามศุภชลาศัย วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ภายใต้แนวคิด “Our Rise ปลุกสปิริตให้สังคม” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือของนิสิต และนักศึกษาในการปลูกจิตสำนึกให้สังคมตื่นตัวเรื่องความสามัคคี ความเสียสละ ความมีน้ำใจ และการทำประโยชน์เพื่อสังคม อันจะนำไปสู่การสร้างพลังเปลี่ยนแปลงประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งหลังจากงานว่างเว้นไปเมื่อปีก่อน ปีนี้เชื่อว่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก โดยจุฬาฯ ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ได้ระดมความร่วมมือจากบุคลากรทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมจัดงานให้มีความพร้อมทุกด้าน เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“ครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของงานฟุตบอลประเพณีฯ ที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เพียงเกมการแข่งขัน แต่ยังมุ่งหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นในการปลุกพลังของนิสิต และนักศึกษา เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนด้านจิตสำนัก เพื่อสังคม โดยสะท้อนผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ” นายดิสทัตกล่าว
นายดิสทัตกล่าวต่อว่า กิจกรรมในปีนี้จะเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงมีพระราชปณิธานในเรื่องจิตอาสาเพื่อสังคม โดยในปีนี้จะมีกิจกรรมเลือดไม่แบ่งสี เชิญชวนคนรุ่นใหม่ร่วมบริจาคโลหิต พร้อมกับโรดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ เริ่มต้นที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วันที่ 18 มกราคม, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) วันที่ 19 มกรารม และที่สยามสแควร์วัน วันที่ 28 มกราคม ส่วนขบวนพาเหรด และแปรอักษร จะสื่อถึงนวัตกรรมใหม่ในก้าวสู่โลกแห่งอนาคต และโลกแห่งพื้นที่สีเขียว เพื่อให้ก้าวทันต่อสมัยของสังคม นอกจากนั้น ยังจะมีการแข่งขันฟุตบอลโดมชราจามจุรีโรย ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์ฯ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ด้วย
นายสุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ กล่าวว่า ปีนี้จุฬาฯ ได้ สก็อต คูเปอร์ โค้ชต่างชาติชาวไอริช ที่คุมทีมสโมสรไทยมาถึง 6 ปี อาสาเข้ามาคุมทีมเป็นเกียรติประวัติของตัวเขาเอง ขณะที่นักเตะจุฬาฯ ทั้งหมด 28 คนจะเป็นทั้งนิสิตปริญญาตรี, ปริญญาโท และนิสิตเก่า ส่วน “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ติดลงเล่นให้กับสโมสรโอเอช ลูเวิน ในลีกดิวิชั่น 2 ของเบลเยียม และไม่ได้กลับมาแข่งขัน แต่ถือว่าศักยภาพผู้เล่นจุฬาฯ น่าจะสู้กันได้อย่างใกล้เคียง ทุกคนจะทำเต็มที่ เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กล่าวว่า ทีมธรรมศาสตร์ได้เตรียมความพร้อมกันมาเต็มที่ โดยจะมีทั้งผู้เล่นจากสโมสรไทย รวมกับนักศึกษารุ่นใหม่ที่ฟูมฟักให้ก้าวมาเป็นกำลังสำคัญต่อไป ส่วนสต๊าฟโค้ชเราจะใช้เลือดเหลืองแดงอย่างแท้จริงนำโดย “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล, “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ และคนอื่นๆ
โค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ กล่าวว่า ธรรมศาสตร์ได้เตรียมทีมกันมานานแล้ว ซึ่งมีผู้เล่น 25-30 คนในใจแล้ว แต่ยังไม่ได้ประกาศออกมา ซึ่งปีนี้จะขาด “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เล่นให้กับคอนซาโล่ ซัปโปโร แต่ตัวหลักคนอื่นอยู่ครบทั้ง “ตังค์” สารัช อยู่เย็น, “เก่ง” อดิศร พรหมรักษ์, “กอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร และคนอื่น อย่างไรก็ตาม แมตช์นี้ถือเป็นการเจอกันของนักเตะทีมชาติ 2 ทีม ซึ่งจะสนุกแน่นอน และมั่นใจว่าธรรมศาสตร์จะป้องกันแชมป์เอาไว้ได้
สำหรับรายชื่อนักฟุตบอลทีมจุฬาฯ ดังนี้ ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, กฤษกร เกิดผล, รัตนัย ส่องแสงจันทร์ / กองหลัง อดุลย์ หมื่นสมาน, พรรษา เหมวิบูลย์, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, ธีราทร บุญมาทัน, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, อนาวิน จูจีน, สุพรรณ ทองสงค์, กรวิทย์ นามวิเศษ, มีโชค มหาศรานุกูล / กองกลาง ปกเกล้า อนันต์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, วัฒนศัพท์ เจริญศรี, ศิวกร จักขุประสาท, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ศราวุธ มาสุข, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, จักพัน ไพรสุวรรณ / กองหน้า สมปอง สอเหลบ, ธีรเทพ วิโนทัย, ชัยณรงค์ ทาทอง, เจนรบ สำเภาดี, ฤทธิพร หวานชื่น และอนันต์ บัวแสง
รายชื่อนักฟุตบอลธรรมศาสตร์ยังไม่ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่นักเตะตัวหลักจะนำโดย สารัช อยู่เย็น, อดิศร พรหมรักษ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ, อาทิตย์ ดาวสว่าง, สุริยา สิงห์มุ้ย, วันเฉลิม ยิ่งยง, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, อภิภู สุนทรพนาเวศ, ชาคริต บัวทอง, รชานนท์ ศรีนอก, ชนานันท์ ป้อมบุปผา, โทร่า เจริญสุข, ศิวกร เตียตระกูล, รัตนัย ส่องแสงจันทร์ และคนอื่นๆ
สำหรับสถิติที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ 71 ครั้ง จุฬาฯ ชนะ 16 ครั้ง, ธรรมศาสตร์ ชนะ 24 ครั้ง และเสมอกัน 31 ครั้ง โดย 2 ครั้งล่าสุดคือ ครั้งที่ 70 เมื่อปี 2558 ธรรมศาสตร์ ชนะ 2-0 และครั้งที่ 71 เมื่อปี 2559 ธรรมศาสตร์ชนะ 5-1 คว้าแชมป์ 2 ครั้งติดต่อกันอีกด้วย
