องค์กรอุตุนิยมวิทยาสากล (ดับเบิลยูเอ็มโอ) ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยผลการวิเคราะห์ข้อมูลสภาวะอากาศในช่วง 3 ปีหลังสุด รวบรวมโดยองค์กรสังเกตการณ์สภาพอากาศชั้นนำของโลกอย่างหน่วยงานพยากรณ์อากาศของสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงองค์การนาซาพบว่า ปี 2559 2560 และ 2561 นั้นเป็น 3 ปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์
ผลสรุปข้อมูลระบุว่าปี 2559 นั้น ยังคงเป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมาผลจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ขณะที่ปี 2560 นับเป็นปีที่ไม่มีปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ร้อนที่สุดทุบสถิติปี 2558 ลงเพียงไม่ถึง 1 ในร้อยองศาเซลเซียส โดยดับเบิลยูเอ็มโอ ยังเน้นย้ำให้เห็นถึงความเสียหายจากหายนะที่เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เข้มข้นขึ้นในสหรัฐอเมริกาทุบสถิติเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ในหลายๆประเทศต้องพบกับพายุไซโคลน น้ำท่วม และภาวะแห้งแล้ง
ทั้งนี้อุณหภูมิพื้นผิวโลกเมื่อปี2560 นั้นสูงขึ้นกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรม 1.1 องศาเซลเซียส ขณะที่ข้อตกลงปารีส เพื่อลดโลกร้อนกำหนดให้โลกร้อนขึ้นกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส (เอเอฟพี)
