จากกรณีนายรามา ยาดอร์ อายุ 47 ปี สัญชาติอินเดีย ถูกคนร้ายแต่งกายคล้ายทหาร ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ โดยให้พาไปกดเงินและโอนออกไปประมาณ 3 แสนบาท เหตุเกิดบริเวณซอยรามอินทรา 109 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีการนำเสนอว่าเป็นสารวัตรทหารรักษาการณ์ดูแลบ้านรองนายกรัฐมนตรีนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มกราคม รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.บก.น.3 และชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.3 ร่วมกันจับกุมนายพีระพัฒน์ บุญคง อายุ 31 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมเครื่องแบบทหาร(ชุดลายพราง) เสื้อเกราะอ่อนกันกระสุน และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำ ที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่ห้องพัก บริเวณถนนอิสรภาพ ฝั่งธนบุรี เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยแต่งเครื่องแบบทหาร หรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหาร โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิด มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
สอบสวนนายพีระพัฒน์ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เคยรับราชการเป็นทหารยศสิบเอก หน่วยรบพิเศษ จ.ลพบุรี แต่ถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุคดีรีดทรัพย์ 14 คดี ในพื้นที่ สน.พหลโยธิน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จ.สมุทรสาคร และอีกหลายพื้นที่ และล่าสุดปี 2561 ที่ สน.มีนบุรี โดยมักจะใช้วิธีสวมชุดทหารอ้างตัวมาจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ปล่อยเงินกู้ และเปิดโต๊ะพนันบอล โต๊ะสนุกเกอร์ อีกทั้งเคยก่อเหตุข่มขู่โต๊ะพนันบอลที่ จ.สมุทรปราการ โดยใช้กลอุบายคำพูดว่า “นี่ทหาร หยุด หมอบลงให้หมด” จนทำให้คนในโต๊ะบอลที่มีจำนวน 30 คน ต้องหมอบลงทั้งหมด เนื่องจากหวาดกลัว
