ไม่ว่าท่าทีตอบรับต่อกรณี”นาฬิกา”หรู ไม่ว่าท่าทีตอบรับต่อกรณีการยื้อและหน่วง “การเลือกตั้ง”ออกไป
น่าสงสัยใน”กลยุทธ์”
ไม่น่าเชื่อว่าทหารกล้า แพรวพราวด้วยลีลาอย่าง พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ จะออกมาแบบนั้น
“เพื่อนให้ยืม”
ไม่น่าเชื่อว่า ในที่สุดก็ต้องใช้บริการ “ลูกแหล่ง ตีนมือ”ที่แทบไม่เหลือเครดิตอะไรเลยในทางการเมืองผ่าน”คณะกรรมาธิการ”ออกมาแบบนั้น
“เลื่อนเวลาออกไปอีก 90 วัน”
ไม่น่าเชื่อว่าจะเคยมี “มือกฎหมาย”ระดับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่น่าเชื่อว่าจะเคยมี”มือกฎหมาย”ระดับ นายวิษณุ เครืองาม
ความต้องการในการ “เลื่อน” การเลือกตั้ง หรือกระทั่ง “ไม่ต้องการ”ให้มีการเลือกตั้ง
เป็นความต้องการที่ดำรงอยู่ในทาง”ความคิด”
แต่คสช.ซึ่งมากด้วยนักวาง”กลยุทธ์”ไม่ว่าในด้านการทหาร การเมือง หรือแม้กระทั่งการตลาด
ควรจะทำได้ “รัดกุม” งดงามยิ่งกว่านี้
ยิ่งเรื่องอันเกี่ยวกับ”นาฬิกา”หรู บรรดาเสนาธิการที่แวดล้อมอยู่โดยรอบน่าจะหาทางออกได้สดสวยมากกว่าจะทื่อๆและหยาบ กระด้างในแบบ”จนตรอก”อย่างนั้น
เป็นไปได้ว่าเพราะมั่นใจใน”เด็ก”ของตนที่อยู่ “ป.ป.ช.”
เป็นไปได้ว่าเพราะมั่นใจในคะแนนและความนิยมที่สั่งสมมาตลอด 3 ปีเศษทำให้คิดว่าจะอ้างอย่างไรก็ได้ จะเลือกหรือไม่เลือกตั้งก็ได้
หรือเป็นไปได้ว่าเพราะ”ถูกหลอก”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่ากรณีของร่างพรบ.นิรโทษกรรมที่เรียกกันว่า “สุดซอย” ในยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ก็มาจากการ “ถูกหลอก” อย่างแยบยล
หลอกตั้งแต่คนอยู่ “ดูไบ” ระเรื่อยมาจนถึงน้องสาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเดินหน้าลุยได้เลย เพราะ “ไฟเขียว” ผ่านตลอดแน่นอน
กว่าจะรู้ว่า “ถูกหลอก” ก็เสร็จ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
บางที “คสช.” อาจซ้ำรอยเหมือน “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ก็เป็นได้