ถามว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เคยเป็น “กองหนุน” ของคสช.หรือไม่
ตอบได้เลยว่า เป็น
ถามว่านักแต่งเพลงชื่อดังจากค่ายแกรมมี่ นิติพงษ์ ห่อนาค เป็น “กองหนุน” ของคสช.หรือไม่
ตอบได้เลยว่า เป็น
คนเหล่านี้ก็เช่นเดียวกับ น.ส.รสนา โตสิตระกูล เช่นเดียวกับ นายวีระ สมความคิด เช่นเดียวกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา
นั่นก็คือ ล้วนเคยเป็น “กองหนุน”
เคยร่วมส่วนกับการเคลื่อนไหวของ”กปปส.”ไม่ระดับใดก็ระดับหนึ่ง เคยเห็นชอบด้วยกับ”รัฐประหาร”
แต่ ณ วันนี้ล้วนตั้งข้อสงสัยต่อ “นาฬิกา”
ข้อเสนอของบรรดา“กองหนุน”เหล่านี้ในลักษณะที่เจ้าของนาฬิกาหรู 25 เรือนต้องพิจาณาตัวเองและแสดง”สปิริต”
ทำให้นึกถึงคำของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
คงจำกันได้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในห้วงที่ดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ทบ.ได้ออกรายการสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อปี 2551
อันเป็นปีที่มีการยึด”ทำเนียบรัฐบาล” ทำให้รัฐบาลกลายเป็นครม.”นอกทำเนียบฯ”
พิธีกรถามว่า “หากท่านเป็นรัฐบาลท่านจะตัดสินใจอย่างไร”
“ถ้าผมเป็นรัฐบาลผมลาออก” เป็นการตอบด้วยน้ำเสียงอันเฉียบขาดเยี่ยงชายชาติทหารจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเป็นผบ.ทบ.
วันนี้คำถามใกล้เคียงกันนี้จ่ออยู่ตรงหน้าเจ้าของ”นาฬิกา” 20 กว่าเรือน
การออกโรง “กดดัน” จาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และ นายนิติพงษ์ ห่อนาค
เป็นเรื่องของ “กองหนุน” อย่างเด่นชัด
เป็นรูปธรรมซึ่งยืนยันสภาพความเป็นจริงตามบทสรุปของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2560 ทีว่า
“กองหนุน” เหลือน้อย แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว
เป็น”โจทย์”ทางการเมืองที่ “นายกรัฐมนตรี”และ”รองนายกรัฐ มนตรี”จะต้องตัดสินใจ