ป. ที่ 4 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

3 ป. ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว

ป.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 

ป.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ป.ป๊อก อนุพงษ์ เผ่าจินดา

Advertisement

มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับล่าสุด เปิด “ป.ที่ 4” 

“เสี่ยคราม” หรือ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เจ้าสัวคอมลิ้งค์

เป็นเพื่อนรักของ พล.อ.ประวิตร ตั้งแต่ชั้น ป.1 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และคบหาสนิทสนมกันมาตลอดกว่า 60 ปี

รวมทั้งโยงไปถึง การเป็นเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร ทุกกลุ่ม

ไม่ว่าเตรียมทหารรุ่น 6 และ จปร.17 และ วปอ.

ใครเป็นเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร ก็จะรู้จักสนิทสนมกับ “เสี่ยคราม” ไปด้วย

นายปัฐวาทเป็นเพื่อนรักที่ดูแล พล.อ.ประวิตร ในทุกๆ เรื่อง จนถูกมองว่าเป็นกลุ่มทุนสายบูรพาพยัคฆ์

เมื่อ เกิดกรณี “แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน” ขึ้นมา

“เสี่ยคราม” ถูกโฟกัสมากกว่าใครเพื่อน

และใครเคยสัมผัส “เซนต์คาเบรียลคอนเน็กชั่น” คงทราบดีว่า เรื่องนาฬิกาแค่นี้ เพื่อนรัก สามารถเคลียร์ให้กันและกันได้ อย่างไร้ปัญหา

แต่น่าเสียดาย 4 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ต้องจากเพื่อนไปก่อน อย่างไม่มีวันกลับ

ทำให้คำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร เรื่อง นาฬิกา ว่า

“ผมมีเพื่อน เพื่อนผมเอานาฬิกามาให้ผมใส่ตลอด เอามาให้ใส่ ไม่ได้เอามาให้ หรือซื้อมาฝาก เพราะใส่แล้ว ผมก็คืนไปทุกเรือน”

ขาดน้ำหนักลงไปทันที

แม้จะอ้างอิงได้ แต่ก็คงถูกตั้งแง่จากฝ่ายตรงข้ามว่า “อาศัยเพื่อนที่ไปสวรรค์”

จึงไม่รู้ว่า ป.ที่ 4 จะช่วยเรียก “กองหนุน” กลับมาช่วย ป.ประวิตร ได้เพียงใด

ทั้งนี้ ป. เปรม ได้เตือน ทั้ง 3 ป มาตั้งแต่ปีใหม่ แล้วว่า ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว จะต้องเร่งสร้างผลงานและความเชื่อถือ กลับมาให้ได้ กองหนุนถึงจะหวลคืนมา

แต่จากวันที่เตือน มาจนถึงวันนี้ กรณี “แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน” นอกจากจะไม่สามารถดึง “กองหนุน” กลับมาได้แล้ว

กองหนุนจำนวนหนึ่ง กลับหันมาร่วมถล่ม ป.ประวิตร อย่างรุนแรงเสียเอง

แถมผูกโยงเรื่องเข้าไปยังองค์กรอิสระ อย่าง ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ อีกด้วย

เรื่องจึงบานปลายออกไป ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะบุคคล หากแต่ถูกตั้งคำถามว่าเป็น “ตัวอย่าง” ของการสร้างระบบและกลไก ปกป้องตนเองและพวกพ้อง หรือไม่

เรื่องนี้เคยถูกอ้างเป็นสิ่งขยะแขยงของ “กองหนุน” และใช้เป็นเครื่องมือปูทางให้มีการยึดอำนาจ ระบอบเก่ามาแล้ว

เมื่อมาเจอรูปแบบเดียวกันในหมู่คนกันเอง จึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ทำให้กองหนุน เริ่มคิดว่าหากกระเตงกันไปอย่างนี้ โอกาสจะถูกย้อนเกล็ดจากนักการเมืองตรงข้ามมีสูงยิ่ง

จึงเริ่มมีการพูดถึงสมการทางการเมืองใหม่กันมากขึ้น

โดยเฉพาะหลังจาก ป.เปรม ส่งสัญญาณ “กองหนุน” แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว

3 ป.อาจจะไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูปอีกต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ เขียนบันทึกด้วยลายมือถึงรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ มีขบวนการล้มรัฐบาล

โฟกัส ไปที่ “สื่อ” และ “นักการเมืองที่มีปัญหา”

โดยละเลย ที่จะไม่พูดถึง “กองหนุน” เปลี่ยนใจ

ซึ่งอาจจะมองไม่เห็น-สัมผัสไม่ได้ หรืออย่างไร ไม่ทราบ

แต่การเมืองไทย โดยเฉพาะเกมแย่งชิงอำนาจ มีอะไรสลับซับซ้อน และไม่แน่นอน

อุตส่าห์ “สมคบคิด” จนเลื่อนเลือกตั้งออกไปได้ โดยหวังว่าเวลาที่เพิ่มจะเป็นประโยชน์ต่อตนและพวก

กระนั้น คงต้องหมั่นนับว่า “กองหนุน” ว่าเพิ่มขึ้นอย่างที่หวังหรือไม่ หรือนับวันจะร่อยหรอลง!

……………

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image