เมื่อเวลา 16.35น.วันที่ 23มกราคม นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีวันพรุ่งนี้ (24มกราคม ) เป็นวันที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เรียกผู้ต้องหาในสำนวนคดีพิเศษที่ 261/2556 หรือคดีร่วมกันเป็นกบฏในการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกรวม 53 คน เป็นผู้ต้องหามาเพื่อรายงานตัวเเละฟังคำสั่งคดีว่า จากข้อมูลมีคำร้องของแกนนำ กปปส.9คน ที่ได้เเจ้งความจำนงว่าจะเดินทางมาเพื่อฟังคำสั่ง ส่วนผู้ต้องหารายอื่นนั้นยังไม่มีการเเจ้งเข้ามา ว่าจะมารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งหรือไม่ เเต่ทางอัยการนัดผู้ต้องหาทุกคนมาเพื่อฟังคำสั่งตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผู้ต้องหาบางคนไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่งทางอัยการจะดำเนินการอย่างไร นายวงศ์สกุล กล่าวว่า จะดำเนินการตามระเบียบเมื่อผู้ต้องหาไม่มาตามนัด ถ้ามีเหตุอันสมควรเราก็จะพิจารณาตามเหตุผลของเเต่ละราย ส่วนข้อมูลขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีใครขอเลื่อนมาบ้างหรือไม่ เพราะหากจะมีการขอเลื่อน ก็ต้องมีหนังสือเเจ้งเข้ามาขณะนี้ยังไม่ทราบ เมื่อถามว่าหากผู้ต้องหาบางคนไม่มาและไม่มีเหตุผลอันสมควรอัยการจะขอศาลออกหมายจับหรือไม่ นายวงศ์สกุล กล่าวว่า ถ้านัดเเรกไม่มา ตรงนี้จะต้องพิจารณาเป็นรายๆไป เหมือนอย่างคดีอื่นเราก็พิจารณาในมาตรฐานเดียวกัน ถ้าเห็นว่ายังไม่เสียหายเเก่คดีเเละไม่เสียความเป็นธรรม เราต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน การออกหมายจับเราต้องมีเหตุผลลักษณะพิเศษ เช่นไม่มาหลายครั้งหรือมีพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่จะทำให้ออกหมายจับได้ ตรงนี้จะพิจารณาเหมือนคดีทั่วไป คดีนี้เเม้จะเป็นคดีการเมืองที่โด่งดัง หลักการจะต้องพิจารณาเหมือนกันทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีการเมืองหรือไม่ใช่การเมือง เราไม่ได้มองว่าคดีเล็กหรือใหญ่ ทางอัยการจะต้องพิจารณาเหตุผล ถ้าผู้ต้องหาเเจ้งว่ามีธุระเร่งด่วนสำคัญไม่สามารถมาได้ หรือมีเหตุเจ็บป่วยหลักประกันไม่พร้อม เราก็ต้องพิจารณาให้ตามเหตุผลที่ไม่กระทบคดีเเละเสียความเป็นธรรม
นายวงศ์สกุล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหารายใดจะมาบ้าง เเต่ที่ประเมินจากคำร้องของเเกนนำ9คนที่ยื่นคำร้องว่าจะเดินทางมารับฟังคำสั่ง เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้(24ม.ค.)ในข้อเท็จจริง9คนอาจจะมา หรือไม่มาก็ได้ เเต่เราคาดได้จากข้อมูลเเละพิจารณาจากคำร้องจึงเชื่อว่าเเกนนำ9คนดังกล่าวน่าจะเดินทางมาตามกำหนดนัดเเน่นอน ส่วนคนอื่นยังไม่มีข้อมูล ไม่เเน่ใจว่าใครจะมาจนถึงวันนัด คดีนี้มีผู้ต้องหาจำนวนมาก ในทางปฏิบัติจริงๆโอกาสที่จะมาครบทุกคนถือว่ายากอยู่ ยกตัวอย่างคดีทั่วไปถ้าผู้ต้องหาเยอะก็ลำบากเช่นกัน ถ้าผู้ต้องหาคนใดมาหรือไม่มาเราก็มีเกณฑ์ปกติในการพิจารณาเหมือนกันต้องดูเหตุผลเราดำเนินการตามหน้างาน
เมื่อถามถึงการเตรียมคำฟ้อง อธิบดีอัยการคดีพิเศษกล่าวว่า เราอาจจะต้องใช้ระยะเวลาปรับฟ้อง ปัจจุบันเรามีคำฟ้องใหญ่อยู่ เราทำฟ้องไว้ครอบคลุมทั้งหมดกับผู้ต้องหาที่คิดว่าเราจะมีคำสั่งฟ้อง เราจะเตรียมไว้สำหรับคนๆนั้น เเต่เมื่อมีผู้ต้องหามากี่คน เราก็ต้องปรับฟ้องให้เข้ากับสถานการณ์ ผู้ต้องหามีหลายคนความผิดหลายฐาน เราจึงต้องทำตามเหตุการณ์ตามหน้างาน
