เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 24 ม.ค.2561 ที่ห้องประชุมโรงแรมบุญสยาม อ.เมือง จ.กระบี่ เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ได้จัดเวที เสวนาในหัวข้อ กระบี่อันดามันเป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลกหรือแหล่งมลพิษถ่านหิน(ค 0 )การกำหนดยุทธศาสตร์ กระบี่อันดามันในภาวะปัจจัยคุกคาม ซึ่งมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เข้าร่วมเวทีกว่า 1000 คน โดยมี พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมสังเกตการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อย
นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนกระบี่ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในการกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (หรือ ค.1) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกระบี่ ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในขั้นตอนการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ (EHIA) จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2561 ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวกล่าว แม้ว่า กฟผ.จะโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นถ่านหินสะอาดก็ตาม เนื่องจากโครงการนี้มันสวนทางกับยุทธศาสตร์ของจังหวัด เมืองสีเขียว และที่สำคัญถ่านหินไม่ได้สะอาดจริง และที่ผ่านมาการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้วได้ถูกยกเลิกมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.พร้อมกับให้ตั้งคณะกรรมการไตรภาคี หรือกรรมการ 3 ฝ่ายศึกษาความเป็นไปได้ของการก่อสร้าง แต่ยังไม่ทันไร กฟผ.ก็ได้หยิบยกผลการศึกษาเก่ากลับมาทำการรับฟังความคิดเห็นใหม่อีกครั้ง นี้แสดงว่ามีนัยยะอะไร
นายอมฤต กล่าวว่า การไฟฟ้ากระทำ เหมือนกับว่าเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ โดยไม่สนใจยุทธศาสตร์จังหวัดกระบี่และข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งที่ทางออกมีให้เลือกหลายแนวทาง ทั้งการเปิดเวทีกลางขึ้นมา โดยให้ผู้เห็นต่างไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้า และกฟผ.แสดงความคิดเห็นกันก่อน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็เดินไปตามแนวทางดังกล่าว เชื่อว่าความขัดแย้งไม่เกิดอย่างแน่นอน
นายวัฒ เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ฝ่ายคัดค้านโรงไฟฟ้า ไม่เคยปฎิเสธโรงไฟฟ้า แต่ต้องไม่ใช้ถ่านหิน แต่ว่าข้อเสนอของฝ่ายคัดค้านพลังานทางเลือกที่มีอยู่จำนวนมากในกระบี่ ไม่เคยได้รับการพิจารณา เหมือนกับว่าการทำ ค.1 ที่จะถึงนี้ เป็นการตอกย้ำสิ่งที่ผิดพลาดของกฟผ.มาตลอด และในวันที่ 28 มกราคมนี้ กฟผ.ไม่ต้องกลัวว่าฝ่ายคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จะไปล้มเวที เพราะพวกเราได้คุยกันแล้วจะไม่ให้ความสำคัญกับเวที ค 1 ที่จะเกิดขึ้น และขอความกรุณาอย่าเรียกพวกเราว่าเอ็นจีโอ หรือคนต่างด้าว เพราะพวกที่ต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินคือคนกระบี่เดิมๆ ที่ทำกิจการท่องเที่ยวกันอยู่ และที่ได้รับผลกระทบจริง ไม่ใช่พม่าที่ไหน อย่างที่มีนายตำรวจท่านหนึ่งกล่าวในห้องประชุมที่ศาลากลางเมื่องานนี้
