กยท.จับมือ ปตท.เปิดจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปยางในปั๊ม

พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราช่วยพัฒนาเกษตรกรไทย เพื่อตั้งจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากยางพาราโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีจุดจำหน่ายสินค้า อีกทั้งจะช่วยให้เกษตรกรทราบว่ายางพาราสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใดได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัจจุบันราคายางไม่คงที่ ปริมาณยางในพื้นที่มีมากขึ้นคือกำลังการผลิตประมาณ 4.6 ล้านตันต่อปี ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศมีเพียง 6 แสนตันต่อปี

“ยางไม่เหมือนพืชอื่น เพราะต้องปลูกถึง 7 ปี ก่อนจะเริ่มกรีดได้ การลงทุนค่อนข้างสูง ขณะนี้มีผู้ปลูกมาก การแก้ปัญหาในระยะยาวคือต้องลดปริมาณการผลิตลง แต่โครงการนี้จะช่วยทุ่นแรงในเรื่องการกระจายผลิตภัณฑ์สู่มือผู้บริโภคในระดับหนึ่ง เพราะเหมือนมีโชว์รูมจำหน่ายยางอยู่ทั่วประเทศ หวังว่าโครงการนี้จะทำให้ราคายางสูงขึ้นได้บ้าง” พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าว

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการบูรณาการระหว่างรัฐวิสาหกิจด้วยกัน โดยจะจัดตั้งโครงการนำร่อง 14 จุด ส่วนใหญ่อยู่ที่สถานีน้ำมัน ปตท. ในภาคใต้ และมี 1 จุด อยู่ที่จ.ระยอง เน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพารา เช่น หมอนรองคอ หมอนหนุนหลัง หมอนข้าง เบาะรองนั่ง ตุ๊กตานวดมือ เป็นต้น เพื่อกระจายสินค้าและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้บริโภค เนื่องจากสถานีน้ำมัน ปตท.มีอยู่ทั่วประเทศ

นายธีธัช  สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศ ผลักดันให้มีการพัฒนา ออกแบบผลิตภัณฑ์จากยางพาราอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีจุดจำหน่ายที่สถานีน้ำมัน ปตท. ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลทั้งการผลิตและราคายาง รวมทั้งยังช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดและยกมาตรฐานการผลิตขึ้นด้วย โดยโครงการจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป หากในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีผลตอบรับที่ดี อาจพิจารณาขยายพื้นที่การจำหน่ายเพิ่มเติม

Advertisement

“เชิญชวนกลุ่มเกษตรกรมาร่วมลงทะเบียน นำผลผลิตและผลิตภัณฑ์มาร่วมโครงการได้ หากเห็นสถานีน้ำมัน ปตท.ที่ไหน ก็เสนอชื่อมาได้เลย ขณะเดียวกันก็เชิญชวนประชาชนมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากพี่น้องเกษตรกรด้วย” นายธีธัชกล่าว

นายธีธัชกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ราคายางในขณะนี้ราคาปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยอยู่ที่ 48-49 บาท/กก. คาดว่าจะปรับขึ้นถึง กก.ละ 50 บาทในเร็วๆ นี้ เนื่องจากปริมาณยางในปัจจุบันลดลง เพราะหลายจังหวัดเริ่มปิดกรีด และด้วยนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน ที่ให้สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบกิจการยางแห้ง รวมถึงผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยดูดซับปริมาณยางจากตลาดได้ระดับหนึ่ง

นายธีธัชกล่าวว่า ส่วนเป้าหมายการเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายในประเทศนั้น ภายใน 5 ปีการใช้จะอยู่ที่ระดับ 30% ของกำลังการผลิตจากปัจจุบันอยู่ที่ 10% ซึ่งการเพิ่มการใช้ยางในประเทศนั้นเพื่อให้เกิดความสมดุลมากขึ้น ส่วนกรณีที่เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางหลายจังหวัดทางภาคใต้เริ่มเคลื่อนไหวขับไล่ตนเองนั้นก็อยากให้เข้าใจว่า การแก้ปัญหาต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เนื่องจากแต่ละมาตรการต้องมีกระบวนการ ทั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ตั้งคณะกรรมการพิจารณาสินเชื่อ รวมถึงพิจารณาการใช้ยางในภาครัฐ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image