คอลัมน์ Taste Test : หัวเว่ย เมท 10 โปร กล้องไลก้า กับความฉลาดของเอไอ

หัวเว่ย เมท10 โปร (Huawei Mate10 Pro) เป็นสมาร์ทโฟนสเปกสูง และสวยอีกรุ่นหนึ่งจากหัวเว่ย ที่ยังคงความโดดเด่นของกล้องคู่จากไลก้าเช่นเคย ที่เปิดตัวกันไปได้หลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่หลายคนสนใจในตอนนี้

มาถึงเรื่องของรูปร่างหน้าตาของตัวเครื่องกันก่อน บนหน้าจอ OLED ขนาด 6.0 นิ้ว ตัวเครื่องใช้วัสดุที่เป็นกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านข้างก็เป็นขอบโลหะ โดยรวมรูปร่างหน้าตาก็จะคล้ายๆ กับรุ่นก่อนๆ เพียงแต่จะมีความหรูหราเนื่องจากวัสดุที่ใช้มากยิ่งขึ้น

ตัวเครื่องใช้หน่วยประมวลผล Hisilicon Kirin 970 Octa Core ความเร็ว 2.36 GHz ส่วนหน่วยความจำในเครื่องให้มา 128 GB และไม่สามารถเพิ่มได้ เนื่องจากไม่มีถาดสำหรับใส่ไมโครเอสดี ส่วนแรมให้มาสูงถึง 6GB พร้อมระบบเซ็นเซอร์ตรวจสอบลายนิ้วมือ ที่จะอยู่ด้านหลังของเครื่อง ซึ่งถือว่าสะดวกต่อการใช้งานดี และมีความรวดเร็วในการสแกนลายนิ้วมืออย่างมาก นอกจากนี้ก็ยังมีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ชั่วคราวด้วย ก็หมายความว่า อย่าเอาเครื่องไปแช่น้ำหรือจุ่มน้ำ แค่พอกระเซ็นยังพอรับได้

สำหรับจุดเด่นอย่างแรกของเครื่อง คือหน่วยประมวลผล Kirin AI ตัวแรกของโลกเลยทีเดียว ที่ให้ทั้งความเร็วในการประมวลผล และความฉลาดในการทำงานจากเอไอ หรือปัญญาประดิษฐ์

Advertisement

ที่น่ายกตัวอย่างง่ายๆ ในการใช้งาน ก็คือเรื่องของกล้อง ที่นอกเหนือจากจุดเด่นในเรื่องของเลนส์ไลก้า 2 เลนส์แล้ว ก็ยังมีความฉลาดของเอไอเข้ามาเสริม ทำให้การถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้น

โดยเลนส์ 2 ตัวด้านหลัง เป็นเลนส์สี 12 ล้านพิกเซล และอีกเลนส์เป็นเลนส์ขาวดำ 20 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

มาดูความฉลาดของเอไอ อย่างเช่นว่า เมื่อเราส่องกล้องไปที่จานอาหาร กล้องจะสามารถรับรู้ได้เลยว่า ภาพที่กำลังจะถ่ายเป็นภาพอาหาร ก็จะมีการปรับแสงสีให้เข้าโหมดอาหาร หรือถ้าส่องไปที่ต้นไม้ ก็จะเข้าโหมดถ่ายภาพต้นไม้ ถ่ายภาพวิวก็จะเข้าโหมดภาพวิว เป็นต้น เป็นความฉลาดของชิปที่ทำให้การถ่ายภาพสวยๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแต่ถ้าต้อง

Advertisement

การถ่ายภาพระดับโปร เมท10 โปร ก็ยังคงตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมเช่นเคย โดยรวมถือว่า การใช้หัวเว่ย เมท10 โปร ถ่ายภาพ ยังคงได้ใจไปเต็มๆ

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกไว้ก่อนว่า หัวเว่ย เมท10 โปร ไม่มีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้แล้ว โดยหูฟังที่ให้มาในกล่องก็จะเป็นหูฟังที่เสียบผ่านช่องยูเอสบี ไทป์-ซี รูเดียวกับที่ชาร์จไฟนั่นเอง และมีตัวแปลงสำหรับคนที่จะใช้หูฟัง 3.5 มม.ด้วย

ราคาเครื่องอยู่ที่ประมาณสองหมื่นกว่าบาท ก็ดูอาจจะแพงหน่อย แต่ถ้าลองดูประสิทธิภาพต่างๆ ที่มากับเครื่องแล้ว ก็ถือว่ารับได้ในฐานะที่เป็นสมาร์ทโฟนพรีเมียม ระดับไฮเอนด์ แถมในกล่องก็ยังมีเคสยางมาให้ด้วย ส่วนเครื่องก็ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย เปิดกล่องปุ๊บ ใช้ได้ปั๊บ ไม่ต้องเอาเครื่องไปติดฟิล์มให้เสียเวลา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image