นักวิชาการศูนย์มานุษฯ หนุนเสวนาอินเตอร์ปม ‘ศรีวิชัย’ หวังต่อจิ๊กซอว์ปวศ.คาบสมุทร เชื่อศก.ไม่ได้อยู่ที่ไชยา

ดร.ตรงใจ หุตางกูร ภาพจาก http://channel.sac.or.th

สืบเนื่องกรณีการขุดค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมากที่เขาพระรายณ์ หรือเขาศรีวิชัย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสันนิษฐานว่าคือรัฐโบราณ ‘พันพัน’ ในเอกสารจีน ซึ่งอธิบดีกรมศิลปากรเตรียมจัดเสวนาระดับนานาชาติ โดยเชิญนักโบราณคดีจากประเทศต่างๆร่วมหารือในหัวข้อเกี่ยวกับรัฐศรีวิชัย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายตรงใจ หุตางกูร นักวิชาการกลุ่มงานวิจัยและพัฒนา ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ตนเห็นด้วยอย่างมาก ที่อธิบดีกรมศิลปากรจะจัดเสวนานานาชาติเพราะจะช่วยเปิดโลกโบราณคดี ซึ่งจะช่วยให้นักโบราณคดีในภูมิภาคนำข้อมูลมานำเสนอและแลกเปลี่ยนกัน จะได้ทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับองค์ความรู้และหลักฐานเกี่ยวกับรัฐศรีวิชัย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ไม่ได้มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีตามที่เคยมีผู้นำเสนอ แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ที่เมืองปาเล็มบัง บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม การพบหลักฐานเพิ่มเติมจำนวนมากที่เขาศรีวิชัยในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความสำคัญของพื้นที่บริเวณดังกล่าว ส่วนประเด็นเรื่องชื่ออำเภอพุนพิน คือ รัฐ ‘พันพัน’ ในเอกสารจีนนั้น เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ มองว่ามีความเป็นไปได้

“การจัดเสวนานานาชาตินี้ จะช่วยเปิดโลกโบราณคดี เราจะได้ทราบหลักฐานทางอินโดนีเซียเกี่ยวกับศรีวิชัยที่เพิ่มเติมมากกว่าเมื่อ 20-30 ปีก่อน จะได้มาดูหลักฐาน รูปแบบโบราณวัตถุร่วมกัน ว่ามีอะไรที่เชื่อมโยงกันได้ สำหรับมาเลเซียก็มีเมืองท่าสำคัญซึ่งเป็นหัวใจของศรีวิชัยคือ เคดาห์ เพราะฉะนั้นต้องใช้ข้อมูลหลายแห่งมารวมกันเหมือต่อจิ๊กซอว์ แล้วมาดูกันว่าศูนย์กลางอำนาจจริงๆอยู่ตรงไหน จะเห็นความเชื่อมโยงจากชวา สุมาตรา แหลมมลายู และสุราษฎร์ธานี โดยมีความชัดเจนว่าสุราษฎร์ธานีคือปลายสุดด้านบนของอำนาจรัฐศรีวิชัย ซึ่งในยุคนั้นต้องมีการวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองบางอย่าง ส่วนตัวคิดว่าศูนย์กลางของศรีวิชัยน่าจะอยู่ที่ปาเล็มบัง เกาะสุมาตรา เนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มเจอหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่าอยู่แถวนั้น แต่ปัญหาคือนักวิชาการไทยไม่ค่อยอัพเดทข้อมูล จะใช้ข้อมูลที่มีการถกเถียงเมื่อ 20-30 ปีก่อนว่า โดยอิงจากหลักฐานทางโบราณคดีนิดหน่อย แต่อิงการตีความจากหนังสือแทน

สำหรับเรื่องชื่อพุนพิน กับพันพัน ต้องตีความจากเอกสารจีน ปัญหาคือ เวลาจีนถอดเสียงจะดึงคำในเสียงเดิมเข้ากับเสียงในภาษาจีน เลยทำให้ชื่อบิดเบี้ยวไป อย่างไรก็ตาม เรื่องเสียง ถือว่า 2 ชื่อนี้เป็นไปได้ที่จะเป็นเมืองเดียวกัน ส่วนตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ก็เป็นไปได้ หรืออย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในแหลมมลายู เพราะเอกสารโบราณเขาจะบอกแค่ว่า เมืองนั้นอยู่ใกล้เมืองนี้ เมืองนี้อยู่ใกล้เมืองนั้น ประเด็นนี้มองว่ายังเปิดกว้าง” นายตรงใจกล่าว

Advertisement

นายตรงใจกล่าวอีกว่า ประเด็นที่ต้องศึกษาต่อไปคือ ร่องรอยความสัมพันธ์ของศรีวิชัยในพื้นที่ทางภาคใต้ของไทยกับศรีวิชัยที่ปาเล็มบัง ว่าสัมพันธ์ด้วยเครือญาติ ด้วยอำนาจทางการเมือง หรือสัมพันธ์เฉพาะศิลปะเท่านั้น หากเราไม่ใช่ศูนย์กลาง แสดงว่าศรีวิชัยในอินโดนีเซียให้ความสำคัญที่จะใช้พื้นที่ทางภาคใต้ของไทยเป็นฐานขยายอำนาจ หรือป้องกันอำนาจที่จะมาจากทางภาคกลางของไทยหรือไม่ อีกประการหนึ่งคือ หากพิจารณาที่ตั้งของสุราษฎร์ธานีลงไปถึงนครศรีธรรมราช หรือปัตตานี จะพบว่าเป็นจุดที่พ่อค้าอาหรับและอินเดียสามารถแล่นเรือตัดข้ามไปทางเขมรและทางเวียดนามใต้ได้ทันทีโดยไม่ต้องแวะเข้าอ่าวไทย

“สำหรับข้อเสนอของนักวิชาการบางท่านที่มองว่าศรีวิชัยไม่มีศูนย์กลาง ผมคิดว่าทุกแห่งมีศูนย์กลาง แต่ศูนย์กลางที่ว่านี้มีลักษณะการแผ่อำนาจอย่างไร เป็นสหพันธรัฐ หรือเป็นรวบอำนาจเหมือนนครวัด ซึ่งชัดเจนว่ารวบอำนาจอยู่ที่เมืองนครหลวง กรณีทวารวดีที่เราพยายามบอกว่ามีศูนย์กลางแต่อยู่ตรงไหนยังสับสน แสดงว่าอาจมีการรวมอำนาจอีกแบบหึ่ง อาจเป็นนครรัฐหรือไม่ เพราะฉะนั้นศูนย์กลางที่ว่านี้เป็นลักษณะที่ว่าเป็นเมืองใหญ่สุดในกลุ่มอำนาจนั้น และทุกเมืองยอมรับ เช่นนครรัฐกรีก” นายตรงใจกล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image