เครือข่ายนักศึกษาชมรมอนุรักษ์ฯ ออกแถลงการณ์จี้ตรวจสอบผู้มีอำนาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่-ให้เวลา 7 วัน

กรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกอีก 3 คน ได้แก่ นายยงค์ โดดเครือ นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ถูกควบคุมตัวพร้อมของกลางในการล่าสัตว์ที่บริเวณป่าห้วยปะชิ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ และส่งตัวให้สภ.ทองผาภูมิ แจ้งข้อกล่าวหา 9 ข้อหา โดยล่าสุดทนายความของนายเปรมชัยยื่นขอประกันตัวและศาลจังหวัดทองผาภูมิได้พิจารณาให้ประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์คนละ 150,000 บาทนั้น

ล่าสุด เครือข่ายนักศึกษาชมรมอนุรักษ์แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้อง ดังนี้

จากกรณีที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพรรคพวกได้ทำการตั้งแคมป์พักแรมในบริเวณจุดห้ามตั้งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบที่ตั้งแคมป์พักแรมและบริเวณดังกล่าว แต่มันกลับไม่ใช่แคมป์พักแรมธรรมดา เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ทั้งไก่ฟ้าหลังเทา และซากเนื้อเก้ง จากนั้นจึงขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนไรเฟิล อาวุธปืนยาวลูกซองแฝดเบอร์20 และปืนยาวขนาด.22พร้อมกระสุนและจากการตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติมยังพบซากเสือดำถูกชำแหละ และถูกถลกหนังอีกหนึ่งตัวซึ่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อยู่ใน Core Area ของผืนป่าตะวันตก ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และในสถานะการเป็น “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” ควรมีความเข้มข้นในการคัดกรองคนเข้าพื้นที่อย่างจริงจัง แต่กับเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตามที่ปรากฎ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวเครือข่ายนักศึกษาชมรมอนุรักษ์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาที่ทำกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจากหลากหลายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Advertisement

ในนามของนักอนุรักษ์เราขอเรียกร้องดังต่อไปนี้

ประการ 1 ความผิดของนายเปรมชัย กรรณสูตและพรรคพวก ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดโดยไม่มีข้อยกเว้น เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมกันของสังคม ไม่ว่าจะเป็นใครจะจนหรือรวยค้ำฟ้า ความผิดย่อมเป็นความผิด อย่าลดทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย

ประการ 2 เราอยากให้เกิดการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่หรือผู้มีอำนาจคนใดในกรมอุทยาน มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้หรือไม่

Advertisement

ประการ 3 เราจะติดตามคดีนี้อย่างจริงจัง และหากภายใน 7 วันยังไม่มีความคืบหน้า เครือข่ายจะมีการทวงถามต่อไป

ประการ 4 เราขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ในการติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินตามขั้นตอนทางกฏหมาย เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อสังคม ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ด้วยศรัทธาบนเส้นทางอนุรักษ์
เครือข่ายนักศึกษาชมรมอนุรักษ์แห่งประเทศไทย
6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image