จบดราม่า! กรมแพทย์แผนไทยฯให้ใบรับรอง’หมอแสง’ เป็นหมอพื้นบ้าน

จากกรณีนายแสงชัย แหเลิศตระกูล เจ้าของสูตรสมุนไพรบำบัดมะเร็ง ออกมาตัดพ้อว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไม่ออกใบรับรอง “หมอพื้นบ้าน” ให้ ซึ่งทำให้น้อยใจ และมองว่าหากระบบยุ่งยากเช่นนี้ และยังไม่ออกใบรับรองภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ จะไม่ผลิตและเลิกแจกแคปซูลสมุนไพรดังกล่าวให้แก่ประชาชน

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายแสงชัยได้ส่งเอกสารที่ยังขาดอยู่ 2 ชิ้น คือ เอกสารการยอมรับของคนในชุมชนที่ไม่น้อยกว่า 10 คนขึ้นไป และเอกสารการยอมรับของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยเมื่อเอกสารครบ ทาง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ลงนามเซ็นออกใบรับรองให้แก่ นายแสงชัย เป็นหมอพื้นบ้านแล้ว

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกใบรับรองอย่างรวดเร็วนั้น กังวลหรือไม่ว่าจะทำให้สังคมคิดว่าเกรงกลัวต่อเส้นตายของนายแสงชัย ว่าจะไม่แจกแคปซูลสมุนไพรให้ประชาชน นพ.ปราโมทย์กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะจริงๆ นี่คือขั้นตอนการพิจารณาอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ใบรับรองกับนายแสงชัย แต่เพราะขาดเอกสาร 2 ชิ้นประกอบการพิจารณา ซึ่งเมื่อครบถ้วน และก่อนหน้านี้ได้พิจารณาเอกสารอื่นๆ มาแล้ว ดังนั้น จึงทำให้ทุกอย่างรวดเร็ว และท่านอธิบดีก็ลงนามได้เลย

“ไม่ใช่ว่าได้ใบรับรองเป็นหมอพื้นบ้านแล้วจะจบ เพราะจริงๆ การออกใบรับรองหมอพื้นบ้านก็เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและยกระดับหมอพื้นบ้านที่มีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่น แต่ต้องดำเนินการมาไม่น้อยกว่า 10 ปี ด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยหรือการแพทย์พื้นบ้าน แต่อย่าลืมว่า หมอพื้นบ้าน และแพทย์พื้นบ้านแตกต่างกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรเสีย หมอพื้นบ้านไม่สามารถทำเพื่อการค้า โดยต้องไปติดตามต่อว่า ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขหลักต้องช่วยเหลือหรือเยียวยาผู้ป่วยตามธรรมจรรยา และต้องไม่ทำเชิงพาณิชย์ ซึ่งหากผิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขก็ถอดถอนใบรับรองได้” นพ.ปราโมทย์กล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่านายแสงชัย ได้รับรองเป็นหมอพื้นบ้านที่เชี่ยวชาญด้านใด นพ.ปราโมทย์กล่าวว่า การออกใบรับรอง “หมอพื้นบ้าน” นั้น ไม่ได้บอกว่ามีความเชี่ยวชาญสาขาไหน ไม่เหมือนแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลปะ ที่จะมีการศึกษาได้ใบประกอบโรคศิลปะ และมีการศึกษาต่อเฉพาะด้าน ซึ่งหากหมอพื้นบ้านต้องการความเฉพาะด้าน หรือต้องการใบอนุญาตเป็นแพทย์แผนไทยก็ต้องเป็นไปตามหลักสูตร มีการศึกษาตามสถาบันการศึกษา มีใบรับรองออกมา หรือในกรณีหมอพื้นบ้านที่อายุมากแล้ว อาจไม่สามารถไปสอบใบอนุญาตได้ ก็จะมีอีกวิธีในการประเมินตามประสบการณ์ ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ต่างๆ อีก โดยที่ผ่านมาก็มีผู้ที่ผ่านการประเมินไป 100 กว่าคน แต่ทั้งหมดก็จะต้องมีระบบในการยอมรับ ซึ่งมีหลักเกณฑ์อยู่ดี

วันเดียวกัน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ถึงกรณีนายแสงชัย จะหยุดแจกแคปซูลสมุนไพรหากไม่ผ่านการรับรองเป็นหมอพื้นบ้าน ว่า  ยืนยันว่า สธ.ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการขึ้นทะเบียนเป็นหมอพื้นบ้าน ส่วนการจะมากดดันให้ขึ้นทะเบียนเป็นหมอพื้นบ้านเร็วขึ้น ถามว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน เพราะขาดเอกสารบางอย่างเท่านั้น เมื่อส่งมาแล้วก็พิจารณาให้ได้ ส่วนเรื่องสมุนไพรที่แจกนั้นก็ต้องมาแยกดูว่าเป็นสารอะไร ออกฤทธิ์อย่างไร  ต้องมาวิจัยต่อ ขอให้ทุกคนมีวิจารณญาณ ซึ่งมะเร็งก็รักษายาก แต่ควรรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันก่อน ซึ่งทั่วโลกยอมรับว่าเป็นการรักษาอันดับต้น ส่วนการแพทย์ทางเลือกก็เป็นทางเลือกที่มารักษาร่วมได้

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร

“จากการติดตามผู้ที่มารับสมุนไพรของหมอแสงพบว่า ส่วนใหญ่ก็รับการดูแลโดยแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว บางคนฉายแสงไม่ได้ผล หรือเลยการให้ยาคีโมไปแล้ว ซึ่งสมุนไพรของหมอแสงก็เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวสุดท้าย ช่วยให้จิตใจดีขึ้น ส่วนผลเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งการมารับยาแล้วกำลังใจดีขึ้นก็ถือเป็นสิ่งที่ดี ส่วนจะหายหรือไม่ต้องมาดูกันที่ผลวิจัย” นพ.ปิยะสกลกล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมอพื้นบ้านแตกต่างจากแพทย์ทั่วไปอย่างไร  นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า หมอพื้นบ้านคือไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบันและไม่ได้จบการแพทย์แผนไทยที่มีการสอน แต่เป็นการใช้ประสบการณ์หรือภูมิปัญญาพื้นบ้านที่เรียนรู้มาทำยาในการดูแลประชาชนที่เป็นโรคต่างๆ และยาต้องไม่มีอันตราย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

เมื่อถามว่าเมื่อหมอแสงขึ้นเป็นหมอพื้นบ้านแล้ว อาจให้มีการจ่ายเงินเพื่อรับบริการก่อน ตรงนี้ถือว่าผิดหรือไม่  นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ตรงนี้ก็ต้องให้ทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ ติดตามว่าเป็นการกระทำตามกฎหมายหรือไม่

เมื่อถามว่ามีการเชื่อมโยงว่าหากหมอแสงไม่ได้เป็นหมอพื้นบ้านแล้วจะหยุดผลิตและไม่แจกสมุนไพร  นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ถ้าทำเพื่อประชาชนจริง ก็ไม่น่าจะมีข้ออ้าง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image