หนุ่มลวง ด.ญ.ลาววัย 13 ให้เอเย่นต์ค้ายาข่มขืนใช้หนี้ยาเสพติด ให้การปฏิเสธ ระบุเด็กสมยอมเอง

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) กรมสอบสวนกลาง นำโดย ร.ต.อ.บุญยืน ทวนทอง รองสารวัตรปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ยังคงลงพื้นที่ติดตามการทำงานของตำรวจ สภ.ปะเหลียน และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุจุดที่เด็กหญิงชาวลาววัย 13 ปี 4 เดือน ถูกลูกชายนายจ้างล่อลวงไปให้เพื่อนซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าข่มขืนกลางสวนยางพาราเพื่อแลกกับค่ายาเสพติดที่ติดค้างอยู่จำนวน 1 แสนบาท และนำตัวเด็กหญิงไปนอนค้างที่บ้านด้วยกัน ก่อนจะปล่อยให้กลับบ้านในวันรุ่งขึ้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17-18 มกราคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การสอบปากคำนายวิทยา เก้าเอี้ยน หรือนายเบส อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายนายจ้างที่นำตัวเด็กหญิงไปจากพ่อ-แม่จากแปลงเพาะพันธุ์กล้ายางที่ทำอยู่ และพาไปที่บริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสวนยางพารา ทั้งนี้ นายเบสให้การปฏิเสธ ระบุว่าเด็กหญิงสมยอมกับนายเบิร์ดหรือนายกำพล สุนทรกิจจา อายุ 33 ปี โดยไม่ได้มีการขู่เข็ญบังคับแต่ประการใด และยอมรับว่าพาเด็กหญิงมานอนค้างที่บ้านตนเอง ไม่ได้บังคับ แต่เพราะเด็กไม่อยากกลับบ้าน ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุพบว่ายังคงมีขวดเหล้าขวดเบียร์และอื่นๆ กระจายเกลื่อน

ร.ต.อ.บุญยืน ทวนทอง รองสารวัตรปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) กล่าวว่า จะนำข้อมูลรายงานไปยังกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์เพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนจะเข้าข่ายคดีการค้ามนุษย์นั้น ต้องดูส่วนประกอบหลายอย่างว่ากระทำเพื่อการได้มาซึ่งผลประโยชน์หรือไม่ ต้องรอการสอบสวน ล่าสุดทราบว่าตำรวจเตรียมจะออกหมายจับผู้ต้องหาบางคนในคดีนี้แล้ว

สำหรับคดีนี้ หลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ปะเหลียน ในวันที่ 19 มกราคม และต่อมาเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561 นายกำพล สุนทรกิจจา (นายเบิร์ด) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าที่บังคับข่มขืนเด็กหญิงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อนในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวน 80 เม็ด ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรัง แต่นายวิทยา เก้าเอี้ยน (เบส) อายุ 27 ปี ลูกชายนายจ้างที่ถูกเด็กหญิงชาวลาวซึ่งเป็นผู้เสียหายให้การว่าเป็นผู้ล่อลวงตนเองไปให้นายเบิร์ดข่มขืนและพาตัวไปนอนค้างที่บ้านด้วย โดยไม่ยอมให้กลับไปบ้าน แต่ได้ปล่อยตัวกลับบ้านในวันรุ่งขึ้นนั้น

Advertisement

ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ แต่ยังปล่อยตัวให้ลอยนวลอยู่กับบ้าน และมีการข่มขู่ให้มีการกลับคำให้การตามมา ทำให้เด็กหญิงและครอบครัวเกิดความหวาดกลัว ต้องลาออกจากงานและไปอาศัยหลับนอนกับชาวบ้านคนไทย โดยเฉพาะแม่และเด็กหญิงผู้เสียหายจะต้องย้ายที่นอนทุกคืนด้วยความหวาดกลัว จึงร้องขอความช่วยเหลือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตรังให้เข้าช่วยเหลือดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image