เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายวิรัช ชินวินิจกุล องคมนตรี เยี่ยมชมกิจกรรมภายในงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า โอกาสนี้ นายวิรัช ชินวินิจกุล องคมนตรี ในชุดไทยย้อนยุค ได้ถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต
เวลาต่อมา ได้เยี่ยมชมร้านค้ามูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ภายในสนามเสือป่า เยี่ยมชมการจำหน่ายบัตรกัลปพฤกษ์ (สอยดาว) ต้นโพธิ์เงิน หรือโพธิ์ทอง และมอบรางวัลแก่ผู้โชคดี จากนั้นเยี่ยมชมร้านค้ารับเชิญ ร้านอาหาร ชมการแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค ที่เวทีใหญ่ บริเวณสนามเสือป่า ก่อนเยี่ยมชมสตูดิโอถ่ายภาพย้อนยุคและร่วมถ่ายภาพย้อนยุคเป็นที่ระลึก และเดินทางกลับ
ทั้งนี้ มียอดผู้มาร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ จำนวน 22,026 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาววันที่ 2 มีประชาชนพร้อมใจแต่งกายชุดไทยย้อนยุครูปแบบต่างๆ และในชุดสุภาพ เดินทางมาเที่ยวชมการจัดแสดงดอกไม้ นิทรรศการย้อนยุค ตลอดจนจับจ่ายใช้สอยต่างๆด้วยรอยยิ้ม
นางรังษิพร จันทร์กลม อายุ 61 ปี ชาวกรุงเทพฯ ข้าราชการครูบำนาญ เดินทางมาพร้อมเพื่อนครูที่เกษียณอายุ แต่งกายชุดไทยย้อนยุค เล่าทั้งรอยยิ้มว่า ตั้งใจเดินทางมาเพราะอยากมาดูความเป็นไทย ที่มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ ซึ่งพอมาเห็นในสถานจริง ทั้งการตกแต่งสถานที่ ผู้คนที่พร้อมใจแต่งกายย้อนยุค ก็รู้สึกประทับใจ ส่วนตัวก็อยากให้มีการจัดงานอย่างนี้ทุกปี หรือปีเว้นปี เพื่อปลูกจิตสำนึกความเป็นไทยให้สืบต่อไปอย่างยืนยง
“อยากให้คนไทยมากันเยอะๆ เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ให้โอกาสประชาชน ได้ใกล้ชิดถึงขนาดนี้ ฉะนั้นหากได้มาก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ของของศักราช” นางรังษิพรกล่าว
ด้านนางสาวมงคลรัตน์ ก้อนเครือ ชาวจังหวัดสมุทรสงคราม พาลูกสาววัย 2 ขวบ แต่งกายชุดไทยสไบเฉียง และครอบครัวมาเที่ยวงาน เปิดเผยว่า ปกติตนชอบให้ลูกสาวแต่งกายย้อนยุคอยู่แล้ว โอกาสต่างๆไม่ว่าจะวันลอยกระทง เดินเที่ยวต่างๆ บางครั้งอยู่บ้านก็ให้ลูกใส่เสื้อคอกระเช้า นุ่งโจงกระเบน ทั้งนี้ อาจเพราะตนเรียนจบด้านโบราณคดีมา อีกทั้งพ่อแม่ปลูกฝังวัฒนธรรมไทยตั้งแต่เด็กๆ จึงอยากให้ลูกมาที่นี่เพราะจะได้ซึมซับวัฒนธรรมไทยเหมือนที่ตนเคยถูกปลูกฝังมา เพื่อช่วยรักษาวัฒนธรรมไทยคงอยู่สืบไป