เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการนัดหมายชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง โดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ในช่วงแรกเกิดความวุ่นวายเล็กน้อยโดยเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจกระทั่งมีปากเสียงกัน ต่อมา แกนนำได้เดินทางมาถึง และมีการปราศรัยเกิดขึ้น
น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา กล่าวว่า นับจากวันนี้ขอให้พี่น้องตำรวจ ทหาร ประชาชน ทุกสี ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย รวมบุคคลที่ทำงานในพรรคการเมือง ก้าวข้ามความกลัว หยุดความหวาดระแวง ความขัดแย้งไม่จำเป็นต้องจบด้วยความสูญเสีย ความขัดแย้งที่สร้างสรรค์สามารถจบลงด้วยอนาคตที่ดีของประเทศ หยุดการปิดกั้น ซึ่งต่อไปนี้เราจะมีการสื่อสารเช่นนี้ออกมาเรื่อยๆ เนื่องจากเราทำหน้าที่แทนฝ่ายค้านในสภา หากอยากให้เราหยุดทำหน้าที่นี้ จงเปิดพื้นที่ปลดล็อกการเมือง เปิดให้มีการเลือกตั้งเพื่อให้เรามีผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภา
ด้านนายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า พอกันทีกับระบอบคสช.ที่เอาแต่พวกพ้อง ดีแต่เอาเปรียบ ขอให้ระลึกว่าวันนี้ภายใต้อนุสาวรีย์ชัยประชาธิปไตยว่าประชาธิปไตยอยู่ใกล้เรามากแค่ไหนถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเข้าไปได้ วันนี้จะไม่ใช่วันสุดท้ายซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ของศักราชใหม่ที่เป็นปีสุดท้ายของคสช.
นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ปราศรัยว่า เรามีประวัติศาสตร์อันภาคภูมิใจเกี่ยวกับพลังประชาชนมาหลายครั้ง เราจะนำความภาคภูมิใจของประชาชน รวมทั้งประเทศชาติในฐานะที่เป็นประเทศของประชาชน และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มาจากประชาชน วันนี้พวกเราออกมาแล้วและนี่ก็คือพื้นที่ของประชาชน เราจะมารวมกันเพื่อคืนความภาคภูมิใจให้กับประเทศชาติของเรา หยุดยื้อเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ หมดเวลาคสช. พ่อ แม่ พี่ น้อง วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะคิกออฟประชาธิปไตยและพลังประชาชนไปด้วยกัน ซึ่งขอให้ติดตามการชุมนุมครั้งต่อไป เพื่อเอาประชาธิปไตยของประชาชนคืนมาโดยเลือกตั้งในปี 61 เพียงเท่านั้น
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ภายหลังจากที่นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัชร์ หรือจ่านิว นายรังสิมันต์ โรม และนายอานนท์ นำพา ได้ยุติการปราศรัย หลังได้แสดงข้อเรียกร้อง 2 ข้อคือให้จัดให้มีการเลือกตั้งในปีนี้ และหยุดสืบอำนาจคสช. บนรถเครื่องขยายเสียงที่จัดเสมือนเป็นฝ่ายค้านในการอ่านแถลงการณ์และปราศรัยเสร็จสิ้นแล้วนั้น ด้านนายอานนท์ ได้ประกาศผ่านไมค์ว่าจะเดินทางไปที่สน.ปทุมวัน เพื่อไปเยี่ยมนายเอกชัย หงส์กังวาน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เมื่อทั้ง 3 คน ได้ลงจากรถปราศรัยพร้อมทั้งเดินเท้าเพื่อมีจุดประสงค์มุ่งหน้าไปยังจุดนัดหมายโดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมต่างพากันมอบดอกกุหลาบสีแดงให้กำลังใจอยู่นั้น จู่ๆทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน และอ่านรายละเอียดชี้แจงการจับกุมให้ทั้ง 3 คน ฟัง ก่อนจะเชิญตัวขึ้นรถตู้เพื่อมาทำบันทึกจับกุมที่สน.สำราญราษฎร์ พร้อมทั้งส่งตัวต่อไปยังที่สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
