‘องอาจ’ฝาก’สนช.-กกต.-กรธ’ พิจารณา กม. ส.ส.-ส.ว. ตรงไปตรงมา ตอบสังคมได้

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความไม่ชัดเจนในการกำหนดระยะเวลาการเลือกตั้งว่า ขณะนี้ความชัดเจน หรือไม่ชัดเจน ของการกำหนดวาระเวลาการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับการทำงานของคณะกรรมาธิการร่วมกัน 3 ฝ่ายคือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.

จากนั้นขั้นตอนสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ สนช.ว่า จะพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ถ้าสนช.เห็นชอบก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการประกาศใช้กฎหมาย ซึ่งจะทำให้เห็นความชัดเจนขึ้น แต่ถ้า สนช.ไม่เห็นชอบกฎหมายก็ตกไปอันส่งผลให้เกิดความไม่ชัดเจนอย่างมากตามมา เพราะจะต้องเริ่มกระบวนการร่างกฎหมายกันใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนอย่างไร ไม่มีใครบอกได้ว่าการเลือกตั้งจะอยู่ในช่วงระยะเวลาใด อันจะก่อให้เกิดความสับสน ความไม่แน่นอนทางการเมืองตามมาอย่างแน่นอน

นายองอาจกล่าวว่า การทำงานของกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย คือ สนช.กกต.และ กรธ.ในการพิจารณาว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกฎหมายทั้ง 2 ฉบับของ สนช.จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามดูว่าจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ ถ้าทำงานตรงไปตรงมามีเหตุผลอธิบายได้ชัดเจน เชื่อว่าผู้คนส่วนมากในสังคมก็พร้อมจะยอมรับได้ แต่ถ้าการทำงานมีลับลมคมใน ไม่ตรงไปตรงมา มีเจตนาเพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

เชื่อว่าผู้คนส่วนมากในสังคมคงไม่สามารถยอมรับได้ อาจเป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมกลายเป็นปัญหาบานปลายออกไปได้ ดังนั้นจึงขอฝากให้ทุกฝ่ายใช้วิจารณญาณพิจารณากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว.ทั้งสองฉบับโดยคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน บนหนทางของการเห็นพ้องต้องกันของประชาชนส่วนใหญ่ ที่อยากเห็นประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ตามครรลองประชาธิปไตยในที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image