ภาครัฐส่งเสริม ‘บ้านปางมะโอ’ ปลูกไม้สักกว่า 20 ปี เกษตรกรขอตัดจำหน่าย รัฐไม่อนุญาต!

รัฐหลอกชาวบ้านปางมะโอ ส่งเสริมปลูกไม้สักจนอายุกว่า 20 ปี ตัดไม่ได้ รวมตัวถกปัญหา การส่งเสริมปลูกไม้สักของทางราชการเป็นการหลอกชาวบ้านปลูกป่า เหมือนเอาที่ดินชาวบ้านไปจองจำทำการเกษตรไม่ได้นานถึง 24 ปี บางรายหวังสร้างบ้าน ขายหาทุน ส่งลูกเรียนชวดหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป่าไม้สักและสวนผลไม้ในเขตหมู่ 12 บ้านปางมะโอ ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ เป็นพื้นที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.4-01 ) ซึ่งผ่านการสอบสวนสิทธิแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่ออกใบ สปก.ให้ ในหมู่บ้านมีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่ได้ใบ สปก.4-01 โดยพื้นที่ปฏิรูปที่ดินดังกล่าวมีพื้นที่ 2,645 ไร่ ในจำนวนนี้ทั้งหมดได้รับการส่งเสริมให้เป็นสวนป่าไม้สักตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 โดยสำนักงานป่าไม้อำเภอวังชิ้นเป็นหน่วยงานเข้าไปส่งเสริม มีกล้าไม้และค่าบำรุงรักษาให้ไร่ละ 3,000 บาท ระยะเวลาบำรุงรักษา 3 ปี มีทางราชการให้แรงจูงใจกับชาวบ้านในการปลูกป่าไม้สักเป็นการลงทุนทำการเกษตรที่คุ้มค่า เมื่อต้นสักได้อายุที่เหมาะสม สามารถตัดไม้ออกจำหน่ายได้ สร้างความร่ำรวยให้กับครอบครัวของเกษตรกร ในเขตปฏิรูปที่ดิน

ทั้งนี้ มีชาวบ้านจำนวน 253 ราย โดยเกษตรกรนำไปปลูกสวนป่าไม้สักจำนวน 1,500 ไร่ ปัจจุบันสวนป่าไม้สักที่ได้รับการส่งเสริมมีอายุถึง 24 ปีแล้ว ลำต้นมีเส้นรอบวงกว่า 100 เซนติเมตร แต่เกษตรกรไม่สามารถขออนุญาตตัดไม้สักได้ เนื่องจากทางราชการไม่ยินยอม

นายอดุลย์ มูลมณี อายุ 47 ปี ชาวบ้านปางมะโอ กล่าวว่า ใบสอบสวนสิทธิ สปก. 4-01 ที่ชาวบ้านถือไว้ในมือ แม้จะยังไม่ออกใบ สปก.4-01 แต่ได้มีการรังวัดที่ดินและออกหลักฐานไว้ให้แล้ว พร้อมทั้งมีการส่งเสริมจากทางสำนักงานป่าไม้อำเภอวังชิ้นในสมัยนั้น น่าจะเปิดให้ชาวบ้านขออนุญาตได้ ผมปลูกตามโครงการไป 20 ไร่ ขออนุญาตตัดไม้จำหน่ายไม่ได้ จะตัดทิ้งก็ไม่ได้ เพราะถ้าตัดทิ้งป่าไม้ก็จะมาจับดำเนินคดีเหมือนกัน อย่างนี้เหมือนเอาที่ดินถือครองของชาวบ้านไปปลูกป่าถาวร หรือเอาไปจองจำ บางคนมาจากพ่อถึงลูก และกำลังส่งให้หลานต่อไป บางรายยิ่งหนักกว่า คือมีความคาดหวังว่าจะได้ขายไม้สักเมื่อแก่ตัวลง บางรายต้องการสร้างบ้าน แต่ก็ไม่มีโอกาส

Advertisement

นายเหรียญ ตาหล้า อายุ 47 ปี ชาวบ้านปางมะโอ กล่าวว่า ที่ดินของผม ทาง สปก.จังหวัดแพร่ ออกใบให้แล้ว ได้รับใบเอกสารสิทธิ สปก.4-01 มาแล้ว ปลูกสวนป่าไม้สักจำนวน 17 ไร่ เอาหลักฐานไปขอตัดไม้ แต่ทางป่าไม้ไม่ดำเนินการให้ จึงนำเรื่องไปสอบถาม สปก.สำนักงานจังหวัดแพร่ ปรากฏว่า ทาง สปก.รับรองให้ตัดไม้ได้เพียง 1 ไร่ อะไรเกิดขึ้นกับประชาชน ปลูกไม้สักแล้วขออนุญาตตัดไม่ได้ แล้วชาวบ้านจะเอาอะไรกินกันล่ะ

ด้านพระฐาปนพงศ์ ฐานิสสฺโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดปางมะโอ กล่าวว่า พื้นที่ปางมะโอถือเป็นหมู่บ้านใหญ่หมู่บ้านหนึ่ง ประชาชนมีที่ทำกินบริเวณเชิงเขาริมลำห้วยกะบาน และลำห้วยสรอย มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ประชาชนที่ไม่หลงเชื่อโครงการของรัฐ พากันปลูกพืชผสมผสาน คือ ผลไม้ จำพวกเงาะ ทุเรียน ลองกอง ลางสาด มะพร้าว กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม ฯลฯ และผักชนิดต่างๆ ได้ผลดีมาก แต่ชาวสวนเหล่านี้ถ้ามีภัยพิบัติมา ชาวบ้านไม่ได้รับความชดเชยพืชผลเกษตรที่เสียไปเลย เพราะพวกเขาไม่มีเอกสารสิทธิ์

“เหตุเกิดมาแล้วในปีน้ำป่าใหญ่ ปี 2544 จนปัจจุบันปัญหาเก่าๆ ก็ยังคงอยู่ ปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นจากโครงการของรัฐที่ทำให้ผ่านไปไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาอย่างแท้จริง อาตมาฟังชาวบ้านเดือดร้อนทุกวันคงไม่ไหว วันที่ 22 กุมภาพันธ์ จะพาชาวบ้านที่เดือดร้อนไปพบนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร เพื่อยื่นหนังสือให้ รมช.ช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งได้ข่าวว่า ท่านจะเดินทางมาที่วัดโป่งคำ อ.สันติสุข จ.น่าน ขณะนี้ชาวบ้านรวมเงินกัน พอมีค่ารถเดินทางไปอย่างแน่นอน เพราะการแก้ไขดังกล่าวน่าจะช่วยได้ในระดับจังหวัด แต่ที่จังหวัดแพร่ ไม่มีใครให้ความสำคัญกับเกษตรกร ชาวบ้านคนเล็กคนน้อยอย่างจริงจัง” พระฐาปนพงศ์กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image