| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
หลังเผชิญกระแส ใครๆ ก็ไม่รักพี่ มานับเดือน
สัปดาห์แห่งความรักนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คงหัวใจชุ่มชื่นขึ้น
หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปประกาศที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์
“วันนี้อย่ารักผมคนเดียว รักรองนายกรัฐมนตรีของผมด้วย
วันนี้มาทั้ง ครม. ประยุทธ์คนเดียวอยู่ไม่ได้ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด ใครต้องออกไป ออกมามันวุ่นกันไปหมด
ฉะนั้นต้องอยู่ด้วยกัน”
แม้จะไม่ระบุชื่อใคร แต่ พล.อ.ประวิตร ฟัง ก็คงเหมือนมีน้ำผึ้งหวานชโลมหัวใจ
เพราะคำประกาศนี้ เป็นเหมือนการแสดงจุดยืนอันมั่นคงของพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ ที่จะไม่ทิ้งกัน
แม้ว่าจะมีเสียงเตือนระงมว่า เส้นทางที่จะเดิน “อุ้ม” กันไป มิได้โรยกลีบกุหลาบอย่างช่วง 4 ปีแรกแห่งการรัฐประหาร
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็แสดงชัดเจนว่า สวม “หัวใจเพชร” ยืนข้าง “พี่”
ทำให้กระแสข่าว พล.อ.ประวิตร จะลาออก ถูกสยบลงไปอย่างน้อยก็ตอนนี้
พูดถึงความรักอันหวานชื่นแล้ว
เพื่อความสมดุล
คงต้องพูดถึง “ความลัก” อันขมขื่นด้วย
ด้วยเพราะมีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยเมื่อรัฐบาลและ คสช.อยู่ในภาวะ “วิกฤตศรัทธา” กลุ่มที่เจ็บปวดจากการถูก “ลักประชาธิปไตย” ก็เริ่มกลับมามีเสียง ให้สังคมได้ยินว่า “วิกฤตศรัทธา” ที่เกิดขึ้นมาจากด้านมืดของการปฏิวัติรัฐประหาร
จึงสมควรที่จะคืนประชาธิปไตย ด้วยการเปิดทางให้เลือกตั้งโดยไว
อย่าพยายามเลื่อน หรือบิดพลิ้ว อีกต่อไป
แต่ดูเหมือนรัฐบาลและ คสช.จะไม่ฟัง และงัดเอาเรื่องการฝ่าฝืนกฎหมายห้ามชุมนุมมาเล่นงานอย่างเข้มงวด เอาจริงเอาจัง
จับได้เป็นจับ
ไม่มีคำว่า “รัก” ให้กับ “คนอยากเลือกตั้ง” แต่อย่างใด
แถมเมื่อมองเข้าไปในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตอนนี้
ปฏิบัติการ “ลัก” การเลือกตั้ง ก็ยังเดินหน้ากันคึกคัก
หลังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติขอ สนช. ตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย
เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.อีกรอบ
ด้วยเห็นว่า สนช.ไปยำเนื้อหาของ 2 กฎหมายจนผิดเจตนารมณ์ และหมิ่นเหม่ที่จะขัดรัฐธรรมนูญ หลายประเด็น
ซึ่งแม้จะเป็นขั้นตอนปฏิบัติ “ปกติ”
แต่ก็มีหลายฝ่ายจับตาว่านี่คือ หนึ่งในปฏิบัติการ “ลัก” เลือกตั้ง
เพราะเป็นการตั้งแท่น ที่อาจจะนำไปสู่การคว่ำกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ อันจะทำให้ต้องเลื่อนเลือกตั้งไปอีกนาน
ซึ่งข้อกังวลนี้ ใช่จะเลื่อนลอย
ตรงกันข้าม กับมีสัญญาณบ่งชี้ว่า อย่าประมาท อะไรก็เกิดขึ้นได้
โดยสังเกตจากอาการของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ที่เมื่อผู้สื่อข่าวถามอย่างคาดคั้นว่า สัญญาได้หรือไม่ ว่ากฎหมายลูกจะไม่คว่ำทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป
คำตอบจากนายมีชัยก็คือ
“ให้ความมั่นใจไม่ได้ ผมไม่ได้จัดการเลือกตั้ง มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนไม่รู้ อย่าคาดการณ์อะไรกันมาก เดี๋ยวนอนไม่หลับ”
ระดับนายมีชัย ให้ความมั่นใจอะไรไม่ได้เช่นนี้
ก็พึงทำใจว่า ในท่ามกลางความ “รัก” อันหวานชื่น
อาจมีการ “ลัก” อันขมขื่น เคลียคลอ อย่างน่าชังอยู่ไม่ห่างด้วย!
………………….
สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
