‘บุญถึง-ณัฐธยาน์’แชมป์บุรีรัมย์มาราธอน-ปอดเหล็กสาวเลินเล่นทีมชาติเปิดทางรุ่นน้อง

นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันวิ่ง “บุรีรัมย์ มาราธอน 2018” ชิงเงินรางวัลรวมมากกว่า 1,650,000 บาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ “YOUR ULTIMATE DESTINATION – สวรรค์ของนักวิ่ง” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์

ผลประเภทมาราธอน ระยะทาง 42.195 กม. นักกีฬาชายที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกพร้อมครองแชมป์โอเวอร์ออลตกเป็นของ คิร์วา นิโคลาส ปอดเหล็กชาวเคนยา 02.21.02 ชม. คว้าเงินรางวัล 100,000 บาท ขณะที่ บุญถึง ศรีสังข์ นักวิ่งมาราธอนจอมเก๋าทีมชาติไทย เป็นนักวิ่งไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรกพร้อมรับเงินรางวัล 50,000 บาท และรั้งอันดับ 4 ในโอเวอร์ออล ที่เวลา 02.32.35 ชม.
บุญถึง กล่าวว่า สถิติที่ออกมาน้อยกว่าปีที่แล้ว 2 นาที ยอมรับว่ามีตัวแปรในเรื่องสภาพอากาศและการเตรียมตัวที่น้อยเกินไป หลังจากนี้คงจะต้องเตรียมตัวแข่งให้ดีกว่านี้เพื่อทำสถิติให้ดีขึ้นในรายการต่อไปอีก 3-4 เดือนจากนี้ ส่วนทีมชาติจะเข้าแคมป์เก็บตัวในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อเตรียมลงแข่งขันในเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย แต่ผลจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับทางสมาคมซึ่งเป็นคนคัดเลือกตัว เพราะตอนนี้มีน้องๆ รุ่นใหม่ ที่มีความสามารถหลายคน

ด้าน โอเวอร์ออลหญิง อันดับ 1 โรทิช แนนซี่ โจนส์ สาวชาวเคนย่า ทำเวลาได้ 02.48.49 ชม. ส่วนสาวไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรกคือ “ฝน” ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ นักวิ่งทีมชาติไทย รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมรั้งอันดับ 4 โอเวอร์ออลฝั่งนักวิ่งหญิงที่เวลา 03.01.14 ชม.

ณัฐธยาน์กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วได้ที่ 1 คนไทยประเภทฮาล์ฟมาราธอน มาปีนี้ขยับมาวิ่งมาราธอน ก็ยังสามารถทำผลงานเป็นอันดับ 1 ของคนไทยได้ จึงพอใจมากกับสถิติที่ทำได้ เพราะก่อนแข่งสภาพร่างกายไม่พร้อม ไม่สบายเป็นไข้หวัด และปวดท้องมีประจำเดือนด้วย หลังจากนี้ก็จะสลับไปวิ่งในระยะมินิมาราธอนก่อนค่อยไต่อันดับไปวิ่งมาราธอน เพราะถ้าวิ่งในระยะ 10 กม.ได้ดี ก็จะส่งผลต่อสถิติในระยะฮาล์ฟมาราธอนและมาราธอนต่อไป ส่วนทีมชาติคงเป็นหน้าที่ของรุ่นน้องมากกว่า ให้น้องๆ ไปหาประสบการณ์เพราะส่วนตัวอายุมากแล้ว มีภารกิจในด้านหน้ามี่การงานและครอบครัว แต่ยังเป็นพี่เลี้ยงให้น้องๆ ต่อไป

Advertisement

ด้านฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กม. ฝ่ายชายอันดับ 1 จอซฟัทคิตตานุย ตู (เคนยา) 01.03.14 ชม. อันดับ 2 วันโยอิเก ปีเตอร์ดันกู (เคนยา) 01.05.15 ชม. และอันดับ 3 โรทิช เคนเรธเคมบอย (เคนยา) 01.08.52 ชม. ส่วนหนุ่มไทยที่ทำเวลาดีที่สุดคือ สัญชัย นามเขต นักวิ่งดีกรีทีมชาติ 01.09.11 ชม. พร้อมได้ที่ 5 โอเวอร์ออล ขณะที่นักวิ่งหญิง อันดับ 1 อิมมาคูลเลท เชมูไต (ยูกันดา) 01.21.01 ชม. ตามด้วย ลินดา จันทะชิต (ไทย) 01.23.45 ชม. และอันดับ 3 นิยาดา คอนสันเทียะ (ไทย) 01.40.06 ชม. โดยอันดับ 1-3 ทั้งชายและหญิงได้รับเงินรางวัลคนละ 50,000-25,000-15,000 บาทตามลำดับ ส่วนแชมป์คนไทยได้ 30,000 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image