แจ้งทารุณกรรมสัตว์ อีก 1 ข้อหา “เจ้าสัว เปรมชัย”-นำกระบะเข้าป่า ล่าสัตว์ จำลองเหตุ

จากกรณี นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมเจ้าหน้าที่ จับกุมตัวนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ที่ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา และสัตว์คุ้มครองอีกหลายชนิด โดยถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก นั้น

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 ก.พ.61 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธร (ภ.จว.)กาญจนบุรี พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ได้เดินทางมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าผลการสอบสวนในคดีดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนระดับจังหวัด พ.ต.อ.ชูชาติ โชคสถาพร รอง ผบก.ศพฐ.7 พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ รองผกก.(สบสวน) กก.5 บก.ปทส เข้าร่วม

ภายหลังจากประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า วันนี้ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชากรตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ตนเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในสำนวนคดีของ นายเปรมชัย กรรณสูตร พร้อมพวกที่เข้าไปล่าสัตว์ป่า ภายในเขตหวงห้ามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ท้องที่ หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 3-5 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้สั่งการไว้แล้ว สำหรับกระบวนการสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งในวันนี้ได้มาพูดคุยเรื่องรายละเอียดและเรื่องการติดตามผลการตรวจของพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อที่จะนำมารวมในสำนวน เพื่อให้สำนวนครบถ้วนสมบูรณ์โดยเร็ว

พล.ต.ต.กฤษณะ  กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ไม่ทราบชัดเจนว่า นายเปรมชัย จะยังคงอยู่ในประเทศหรือไม่ หรือว่าไปอยู่ที่ใด แต่เมื่อครบกำหนดตามที่ศาลนัด นายเปรมชัย พร้อมพวก จะต้องมาศาล หรือว่าหากพนักงานสอบสวนเรียกมาเพื่อต้องการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้เรามีประเด็นสงสัยที่จะต้องประสานในการออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ในประเด็นรายละเอียดที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาแจ้งเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา ซึ่งเป็นข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ดังนั้นจะต้องเรียกมาสอบปากคำ

Advertisement


พล.ต.ต.กฤษณะ  กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของ นายนพดล พฤกษะวัน อดีต ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 6 จ.สงขลา และเป็นที่ปรึกษาของ นายเปรมชัย ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จะเป็นผู้เรียกไปให้ปากคำ จนถึงขณะนี้การตรวจวัตถุยานทั้ง อาวุธปืน คราบเลือด รวมทั้ง DNA ผลยังไม่ออกมา โดยยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และยังมีพยานหลักฐานอื่นอีก ที่ต้องไปขอจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อนำมามอบให้พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจ สำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ TOYOTA แบบ LANDCRUISER สีน้ำตาลอ่อน ทะเบียน 7 กค 2192 ที่ นายเปรมชัย กับพวกใช้เป็นยานพาหนะนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำหนังสือขอจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อนำรถยนต์คันกังกล่าวออกมา จากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ และได้มีการนัดหมายกันในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) จะนำออกมา จากนั้น พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จะนำไปส่งที่พิสูจน์หลักฐานกลางเพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียด

พล.ต.ต.กฤษณะ  กล่าวต่อว่า  ส่วนกรณีที่ นายเปรมชัย มอบไฟฉายให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากตรงนี้มาเกี่ยวข้องกับรูปคดีเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ในป่าไม่มีกล้อง ซึ่งได้พยายามเก็บภาพจากกล้องภายนอกและกำลังรวบรวมรายละเอียดอยู่ ส่วนข้อสังเกตที่ผู้สื่อข่าวถามว่าการมอบไฟฉายให้กับเจ้าหน้าที่ดูเหมือนเป็นการแลกเข้าพื้นที่โดยไม่ใช้ใบอนุญาตหรือไม่นั้น เรื่องนี้คงจะเป็นระเบียบภายในของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และคงไม่สามารถตอบคำถามแทนได้

 

Advertisement

พล.ต.ต.กฤษณะ  กล่าวอีกว่า สำหรับการการตรวจผลทางวิทยาศาสตร์นั้น ทาง พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้กำชับเอาไว้แล้วว่า ให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดผลการตรวจ แต่ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการตรวจด้วย เชื่อว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด สำหรับพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อจำลองเหตุการณ์ โดยฝ่ายของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะนำพิสูจน์หลักฐานไปจำลองเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำรายงานประกอบสำนวนส่วนประเด็นที่ว่ากลุ่มของ นายเปรมชัย อาจจะมีมากกว่า 4 คนนั้น จะต้องรอผลรายงานจากพิสูจน์หลักฐานก่อน ส่วนเรื่องการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานไปแล้ว คาดว่าน่าจะสามารถนัดได้ภายในสัปดาห์นี้

พล.ต.ต.กฤษณะ  ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้หาก นายเปรมชัย ไม่มาตามหมาย ก็จะต้องออกหมายเรียก ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการประกันตัวที่ศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องรายงานให้ศาลทราบว่า พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่มา ศาลก็จะได้นำไปประกอบการพิจารณาในการให้ประกัน ต้องบอกตามตรงว่าขณะนี้เราไม่ทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คนนั้นไปอยู่ที่ไหน เพราะเราไม่ได้ติดตามตัว ซึ่งการรายตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จะต้องไปรายงานตัวที่ศาล เพราะขั้นตอนอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล สำหรับข้อมูลทางการข่าวนั้นบอกว่า นายเปรมชัย ได้หลบหนีไปต่างประเทศโดยอาศัยช่องทางธรรมชาตินั้น ซึ่งเราไม่ทราบข้อมูลนี้ แต่หากมีข้อมูล ทางผู้บังคับบัญชาก็จะเป็นผู้สั่งการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าออกไปนอกประเทศแล้ว หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทาง นายเปรมชัย มีบ้านพักอยู่ที่ทวาย เพราะมีการรับเหมาเส้นทางทวาย นั้น เรื่องนี้ก็ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเช่นกัน เนื่องจากอยู่นอกประเทศ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีความสามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบได้

 


ต่อข้อถามที่ว่าเสียงในคลิปที่มีการพูดคุยต่อรองกับเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบคลิปเสียงว่าเป็นเสียง นายเปรมชัย แล้วหรือยัง พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องคือเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง จะต้องตรวจสอบว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นเสียงที่มีการตัดต่อแต่งเติมหรือแก้ไขหรือไม่ และก็คงต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม เพราะต้องได้รับคำยืนยันผลการตรวจ ซึ่งทาง ปอท.จะเป็นหน่วยงานที่จะทำการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวและล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้มาแจ้งข้อหาต่อ นายเปรมชัย กับพวกเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ทารุณกรรมสัตว์ ปัจจุบันจึงเป็น 10 ข้อหา ซึ่งจะต้องเชิญ นายเปรมชัย กับพวกมารับทราบข้อหาเพิ่มเติม แต่จะมี 2 ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นความผิดที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาร้องทุกข์เอาไว้ คือ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องมือล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไม่มีโทษทางอาญา ดังนั้นจะต้องสอบทางนิติกรของป่าไม้

พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องสำนวนที่จะส่งให้อัยการจะต้องรอหลักฐานทั้งหมดเพื่อรวมเป็นสำนวนเดียวกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีกรอบระยะเวลาอยู่แล้ว เนื่องจากเราฝากขังผู้ต้องหาไว้กับศาล ซึ่งศาลก็มีกรอบระยะเวลาของศาลคือ สูงสุดฝากได้ไม่เกิน 7 ครั้งๆ ละไม่เกิน 12 วัน แต่ทุกครั้งที่นำไปฝากขัง ต้องชี้แจงให้ศาลทราบว่า ที่ยังทำสำนวนไม่เสร็จนั้น เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการอะไร จากนั้นศาลก็จะเป็นผู้พิจารณา อย่างไรก็ตามไม่ได้หวั่นวิตกเรื่องของสำนวน ถึงแม้ทางทีมทนายของฝ่ายผู้ต้องหาค่อนข้างที่จะมีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย เนื่องจากเราทำตามพยานหลักฐานที่มีอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนายเปรมชัย กรรณสูตร พร้อมพวก 4 คน ถูกดำเนินคดีใน 9 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.มีซากสัตว์ป่าไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.พยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 5.นำอาวุธปืนหรือเครื่องจับหรือล่าสัตว์ป่าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต 6.รับไว้ช่วยเหลือซ่อนเร้นซากสัตว์ป่าที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 7.เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 8.มีเครื่องมือล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ 9.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ข้อ คือ ทารุณกรรมสัตว์ รวมเป็น 10 ข้อหา ส่วนข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน จะต้องรอผลการตรวจตรวจพิสูจน์คลิปเสียงก่อน จึงจะตั้งข้อหากับ นายเปรมชัย ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image