| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
กรณีของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธาน บริษัท อิตาเลียนไทยฯ นำทีมบุกป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมอาวุธปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง พร้อมกระสุนกำลังดัง
เรื่องนี้ดังเพราะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไปตรวจแคมป์ที่นายเปรมชัยอยู่ พบซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา และพบเนื้อสัตว์อีกจำนวนหนึ่ง
ความดังเกิดขึ้นทันทีที่เป็นข่าว เพราะนายเปรมชัยเป็นนักธุรกิจใหญ่ นั่งบริหารอยู่ในบริษัทยักษ์ใหญ่
เมื่อตรวจสอบต่อไปพบว่าการเข้าพื้นที่ป่ามีการประสานงานกับผู้อำนวยการ กระทั่งนายเปรมชัยกลายเป็น “แขกวีไอพี”
ความดังก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ
ยิ่งเมื่อมีการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้บันทึกคลิปเสียง มีการต่อรองกับเจ้าหน้าที่ กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความเพิ่ม
แจ้งข้อหาพยายามให้สินบนเจ้าพนักงาน
ความดังก็กระหึ่มไปทั่ว ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ขณะที่คดียังคงดำเนินการอยู่ ตำรวจตรวจพยาน เจ้าหน้าที่เสาะหาหลักฐาน
เช็กเขม่าดินปืน ดีเอ็นเอ ปืนและกระสุนของกลาง เป็นต้น
ยังมีรายละเอียดอื่นๆ เช่น วิถีกระสุน แหล่งที่มาของเนื้อที่ยึดได้
หลักฐานที่ปรากฏจะพิสูจน์ว่า นายเปรมชัยและคณะเข้าไปทุ่งใหญ่ เพื่อ “ศึกษาธรรมชาติ” ตามอ้างหรือไม่
หรือว่าเข้าไปเพื่อ “ล่าสัตว์”
ขณะนี้มีข้อมูลว่า นายเปรมชัยและคณะเข้าพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์
ต่อมาวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถูกตรวจค้นและจับกุม
แต่ระยะเวลาดังกล่าวจะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหนก็ต้องตรวจสอบ
การตายของเสือดำก็เช่นกัน เกิดขึ้นจากการไปตามล่า หรือเดินมาเข้าทางนักล่าเสียเอง
หรือมีเหตุอื่นใดเพิ่มเติมก็ยังต้องพิสูจน์
ถ้าเสือดำและไก่ฟ้าตายเพราะฝีมือของนายเปรมชัยและคณะ
วันนั้น นายเปรมชัยก็เป็นผู้ล่า ส่วนเสือดำ ไก่ฟ้า เป็นผู้ถูกล่า
แต่สำหรับวันนี้สถานะของนายเปรมชัยและคณะกำลังเปลี่ยนไป
นับตั้งแต่ข่าวสารเกี่ยวกับนายเปรมชัยและคณะกระจายออกไปทั่ว
นายเปรมชัยได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะแค่วันที่อยู่กับตำรวจ หลังจากนั้นได้หายตัวไป
สถานะของนายเปรมชัยและคณะได้เปลี่ยนจากผู้ล่า
กลายเป็นผู้ถูกล่า
ไม่ได้ล่าเอาชีวิต แต่นายเปรมชัยและคณะอาจจะต้องสูญเสียยิ่งกว่า
นายเปรมชัยอาจจะสูญเสียอิสรภาพ เพราะข้อหาที่ตำรวจตั้งนั้น มีโทษถึงจำคุก
นายเปรมชัยอาจสูญเสียตำแหน่งหน้าที่ เพราะจรรยาบรรณของบริษัทที่นายเปรมชัยเป็นผู้นำประกาศว่า จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
และน่าจะรวมถึงไม่ทำร้ายสัตว์ป่า สัตว์หายาก ด้วย
ส่วนสิ่งที่นายเปรมชัยและคณะสูญเสียไปแล้วคือ ความน่าเชื่อถือ
สิ่งที่นายเปรมชัยและคณะกำลังเผชิญหน้าคือ การถูกล่วงล้ำ
บ้านหลังใหญ่ถูกตรวจค้น ทรัพย์สิน เช่น ปืน งาช้าง ถูกยึด
บ้านอีกหลังกำลังตกเป็นข่าวว่าอาจรุกที่ป่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจพิกัด
ประวัติที่เคยทำมาในอดีต ถูกขุดคุ้ย
นายเปรมชัยและคณะจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่สถานะของพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
เปลี่ยนจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่า
สถานะ “ผู้ถูกล่า” เป็นสถานะที่ไม่พึงประสงค์
และคงไม่มีใครชมชอบกับสถานะเยี่ยงนี้
ไม่ว่า “ผู้ถูกล่า” นั้นจะเป็น “คน” หรือ “สัตว์” ก็ตาม
……………….
นฤตย์ เสกธีระ [email protected]
