ทีมสอบสวนรัสเซียเผยว่าเซ็นเซอร์ความเร็วซึ่งถูกน้ำแข็งเกาะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารตก หลังเพิ่งขึ้นบินจากสนามบินในกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 71 ราย
คณะกรรมการการบินระหว่างรัฐของรัสเซียระบุว่า ปัญหาจากการทำงานของเซ็นเซอร์ความเร็วดังกล่าวอาจทำให้นักบินได้ข้อมูลความเร็วที่ผิดพลาดจนนำไปสู่อุบัติเหตุอันน่าเศร้าครั้งนี้
ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นจากเครื่องบันทึกข้อมูลบนเครื่องบินบ่งชี้ว่า เครื่องบินประสบปัญหาหลังจากขึ้นบินได้เพียง 2 นาทีครึ่งที่ระดับความสูง 1,300 เมตร โดยมีการแสดงผลความเร็วของเครื่องบินซึ่งแตกต่างกัน ซึ่งอาจมาจากน้ำแข็งเกาะที่เซ็นเซอร์ควบคุมความเร็ว และทำให้ระบบทำความร้อนดับลง เมื่อทราบปัญหานักบินได้ทำการปิดระบบการบินอัตโนมัติซึ่งทำให้เครื่องบินลดระดับลงอย่างรวดเร็ว
ด้านสื่อรัสเซียรายงานว่ากัปตันของเครื่องบินได้ปฏิเสธที่จะให้มีการละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่บนเครื่องบินก่อนจะทำการบินขึ้น โดยขั้นตอนดังกล่าวถือเป็นทางเลือกและขึ้นกับการตัดสินใจของนักบินซึ่งอยู่บนพื้นฐานของสภาพอากาศ
ทั้งนี้ทางการรัสเซียได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 700 นายในปฏิบัติการค้นหาหลักฐานรวมถึงร่างของผู้เสียชีวิตท่ามกลางหิมะหนา ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งโดยได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติของเหยื่อ เพื่อนำมาใช้ในการระบุตัวผู้โดยสารรวมถึงลูกเรือทั้งหมด ขณะที่ชิ้นส่วนของเครื่องบินรวมถึงร่างของผู้โดยสารกระจัดกระจายไปในวงกว้างกว่า 187 ไร่
