วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) ในเครือมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จัดโครงการแข่งขันตอบปัญหาทางบัญชี ‘สัมมาอาชีวบัญชี มหาจักรีสิรินธร’ ครั้งที่ 5 เฟ้นหาสุดยอดนักบัญชีระดับอาชีวศึกษา ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วิชาชีพบัญชี เป็นหนึ่งในสาขาวิชาชีพที่ถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศทางหนึ่งคือการพัฒนานักเรียนในสายวิชาชีพบัญชีในระดับอาชีวศึกษา ให้มีทักษะวิชาการที่ดีเยี่ยม ผ่านเวทีการแสดงออกความรู้ความสามารถในการแข่งขันตอบปัญหา โดยล่าสุด วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) แห่งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นำโดย ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้จัดโครงการแข่งขันตอบปัญหาทางบัญชี ‘สัมมาอาชีวบัญชี มหาจักรีสิรินธร’ ครั้งที่ 5 ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งการแข่งขันที่จัดขึ้นครั้งนี้ได้มุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการคิดที่เกี่ยวกับความรู้ความสามารถวิชาการ ภายใต้มาตรฐานที่กำหนดโดยสหพันธ์นักบัญชีสากล (International Federation of Accountants: IFAC) กล่าวคือ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องมีความสามารถในการใช้ความรู้ด้านการบัญชี การเงิน และความรู้อื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทักษะในสื่อสารและทำงานกับผู้อื่น
ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดี วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดงาน และแนวทางการพัฒนาการแข่งขันตั้งแต่ปีแรกมาจนถึงปีปัจจุบันว่า ‘การจัดแข่งขันตอบปัญหาทางบัญชีนี้ นอกจากจะเป็นการวัดศักยภาพของนักเรียนสาขาบัญชีแล้ว ยังเป็นการตรวจเช็คมาตรฐานของหลักสูตรของสถานศึกษาแต่ละแห่งที่เข้าแข่งขันไปในตัวอีกด้วยว่าพวกเขามีความรู้ ความเข้าใจ ในการเรียนมากน้อยเพียงใด ซึ่งในแต่ละปีเราจะมีการพัฒนารูปแบบของการแข่งขันโดยนำเทคโนโลยีมาผสมผสานเข้ากับวิชาบัญชี เพื่อให้ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งปีนี้ปีแรกที่เราได้ใช้ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ คือการใช้แอพพลิเคชั่น CIBA Banchee ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย CIBA ในการตอบปัญหาของผู้ร่วมเข้าแข่งขัน’
โดยจุดเด่นของการแข่งขันครั้งนี้ คือ แอพพลิเคชั่น CiBA Banchee ดังกล่าวที่ถูกพัฒนาขึ้นมารองรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ซึ่งจะนำระบบการวิเคราะห์ข้อมูลสมัยใหม่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ทักษะทางวิชาชีพของผู้เข้าร่วมแข่งขัน เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้น ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลจะสามารถจำแนกได้ว่า ผู้เข้าแข่งขันมีจุดเด่นทางทักษะวิชาชีพด้านใดบ้าง อาทิ ทักษะทางการบัญชีบริหาร การบัญชีอุตสาหกรรม การบัญชีขั้นต้น การภาษีอากร และทักษะทางวิชาชีพอื่นๆ ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว ทางวิทยาลัยสามารถนำข้อมูลไปปรับกระบวนการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมและเพิ่มพูนให้นักเรียนสาขาบัญชีมีทักษะที่สูงขึ้น โดยการแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่วัดระดับความรู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังวัดระดับของทักษะทางวิชาชีพในสาขาต่างๆ ทางบัญชีทั้งในระดับ ปวช. และ ปวส. อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การประมวลผลข้อมูลก็จะมีความแม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และนักเรียนจะได้รับประสบการณ์การเรียนการสอนสมัยใหม่ผ่านเครื่องมืออย่าง iPad เหมาะสมกับการเรียนการสอนในยุคดิจิทัลอีกด้วย
โดยในการแข่งขัน ‘สัมมาอาชีวบัญชี มหาจักรีสิรินธร’ ครั้งที่ 5 นี้ ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะเลิศคว้าถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งระดับ ปวช. และ ปวส. นั่นคือนักศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี
ด้าน ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานภาคีสัมพันธ์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIBA ได้กล่าวถึงทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรของทาง CIBA และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ว่า ‘ด้วยความที่โลกดิจิทัลเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากต่อการทำธุรกิจในยุคนี้ ทางเราจึงได้มีการปรับปรุงและปูพื้นฐานหลักสูตรใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ NEW BUSINESS DNA ให้กับนักศึกษา เพื่อต้องการตอบโจทย์รูปแบบของสังคมที่เปลี่ยนไป ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวจะเน้นให้นักศึกษาได้ทำโปรเจ็กต์ต่างๆ ร่วมกันระหว่างสาขาวิชาหรือคณะมากกว่าการสอบ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สอดแทรกอยู่ในทุกสาขาอาชีพ ด้วยการรู้จักใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และทักษะเกี่ยวกับผู้ประกอบการที่เราได้เน้นลงไปในหลักสูตรด้วย เพื่อต้องการให้นักศึกษาได้พัฒนาแนวคิดออกมาเป็นสินค้าหรือบริการภายใต้ไอเดียที่สามารถนำไปต่อยอดได้หลังเรียนจบ’
วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สถานศึกษาที่มุ่งเน้นสู่การเป็นสถาบันหลักในการขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนการศึกษาไทยสู่ธุรกิจยุคดิจิทัล
