5จี ในมิติเศรษฐกิจ อนาคตมูลค่าพุ่ง หลายล้านล้าน

การประเมินจากการศึกษาวิจัยของสมาพันธ์จีเอสเอ็ม (จีเอสเอ็มเอ) องค์กรที่เป็นตัวแทนของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มากกว่า 800 รายทั่วโลกกับบริษัทที่อยู่ในระบบนิเวศของอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกกว่า 250 บริษัท ระบุเอาไว้ว่า ภายในปี 2025 ทั่วโลกจะมีผู้บอกรับบริการเครือข่าย 5จี เฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากถึง 670 ล้านราย แต่หากรวมเอาการเชื่อมต่อของสรรพสิ่งที่ติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเตอร์ไว้ ที่เรียกกันว่า “ไอโอที” ปริมาณการเชื่อมต่อดังกล่าวจะทะลุถึงระดับ 1,100 ล้านคอนเนกชั่น

แต่นั่นเพียงคิดเป็นสัดส่วนแค่ 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้บอกรับบริการ 5จี ทั้งโลกเท่านั่น ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าเครือข่าย 5จี จะครอบคลุมราว 1 ใน 3 ของประชากรทั่้วทั้งโลกในเวลานั้น

ในสมุดปกขาวว่าด้วย 5จี ในภูมิภาคเอเชียของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน คาดการณ์ไปในทางที่ดีกว่านั้น และเร็วกว่านั้น โดยระบุเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เพียงแค่ถึงปี 2022 การบอกรับบริการ 5จี ในเอเชียจะคิดสัดส่วนสูงถึงเกือบๆ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนบอกรับบริการทั่วทั้งโลก และประเมินมูลค่าของรายได้ที่เกิดจากการนั้นเอาไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 143,500 ล้านบาท

แต่ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ด้วยว่า ปริมาณการบอกรับบริการ 5จี ในเอเชียในตอนนั้นอยู่ที่ประมาณกว่า 280 ล้านรายเท่านั้น เมื่อเทียบกับตัวเลขประมาณการการบอกรับบริการ 4จี ทั่วโลกในปี 2018 ซึ่งจะทะลุเกิน 3,160 ล้านรายแล้ว 280 ล้านรายก็ถือเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นเอง

Advertisement

พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่าหาก 5จี ครอบคลุมอย่างทั่วถึงทั้งโลกจริงๆ มูลค่าในทางเศรษฐกิจของมันสามารถทะยานขึ้นไปเป็นหลักแสนล้านหรือล้านๆ ดอลลาร์ได้ไม่ยากเย็นเลย

ในขณะที่ควอลคอมม์ระบุเอาไว้ในรายงานว่าด้วยอิทธิพลของ 5จี ต่อเศรษฐกิจโลกเอาไว้ว่า ภายในปี 2035 นี้ 5จี จะก่อให้เกิดรายได้เทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สูงถึง 12.3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่เทียบเท่ากับมูลค่าการบริโภคของผู้บริโภคอเมริกันทั้งประเทศตลอดปี หรือสูงกว่ามูลค่าการบริโภคของประเทศอย่าง จีน, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส รวมกัน

แน่นอนมูลค่าที่เกิดขึ้นจากการใช้งานเครือข่ายโทรคมนาคมไร้สายส่วนหนึ่ง เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นโดยตรง เกิดขึ้นจากการบอกรับบริการ 5จี จากผู้ให้บริการทั้งหลายในประเทศต่างๆ เกิดขึ้นจากการใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เกมใหม่ๆ ฯลฯ ที่สามารถให้บริการได้ในเวลานั้นเนื่องจากสปีดและสมรรถนะของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นอำนวยให้เกิดขึ้นได้

Advertisement

ควอลคอมม์เชื่อว่า 5จี จะทำให้อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและโทรคมนาคมสร้างรายได้คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดรายได้สูงสุดเป็นลำดับที่ 2 รองจากอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งในยุค 5จี จะมีมูลค่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็น 28 เปอร์เซ็นต์ของเศรษฐกิจทั้งโลก

ในเวลาเดียวกัน 5จี ก็ยังก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยอ้อม เช่น อำนวยให้เกิดการใช้งานแพร่หลายของ รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ไร้คนขับ, อำนวยให้เกิดระบบการผลิตแบบอัตโนมัติในโรงงานการผลิตได้ตลอด 24 ชั่วโมงและ 7 วันต่อสัปดาห์, อำนวยให้เกิดการประยุกต์ใช้ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน อย่างเช่น การใช้โดรนเชิงพาณิชย์เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมในพื้นที่กว้าง ฯลฯ

ควอลคอมม์เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “ห่วงโซ่แห่งมูลค่า” ซึ่งประเมินเอาไว้ว่า จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2035 เทียบเท่ากับรายได้รวมของบริษัทระดับท็อปในฟอร์จูน 100 รวมกัน 13 บริษัท ที่ภายในนั้นมีบริษัทอย่าง วอลมาร์ท แอปเปิล และกูเกิล รวมอยู่ด้วย

สถาบันร็อคกีเมาเทนเคยประเมินเอาไว้เมื่อปี 2016 ว่า รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลาและเชื่อมต่อซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา จะช่วยก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี ในขณะที่รายงานของเท็กซัส ทรานสปอร์เทชั่น อินสติติวท์ ก็เชื่อว่าระบบดังกล่าวซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเกิดโครงข่าย 5จี แล้วเท่านั้นจะทำให้สหรัฐอเมริกาประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงปีละ 3,100 ล้านแกลลอน เช่นเดียวกับรายงานว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนของโลกขององค์การอนามัยโลก เชื่อว่าระบบดังกล่าวนี้สามารถประหยัดกำลังคนในแต่ละปีได้มากถึง 12 ล้านคน

ในขณะเดียวกัน การตื่นตัวเรื่อง 5จี จะก่อให้เกิดการลงทุนมหาศาลขึ้นตามมา

ข้อมูลของไอดีจี บริษัทผู้ให้บริการวิเคราะห์ด้านการตลาด ระบุว่า 5จี จะก่อให้เกิดอุตสาหกรรมโทรคมนาคม “ชนิดใหม่” ขึ้นโดยสิ้นเชิง ปรากฏการณ์ไอโอทีจะทำให้อุปกรณ์ดิจิทัลทั้งหลายปรากฏอยู่ในกระเป๋าของผู้คนแทบจะทุกคนบนโลกใบนี้ จำนวนอุปกรณ์ดิจิทัล 26,000 ล้านอุปกรณ์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกันได้ตลอดเวลา และในทุกสถานที่เมื่อถึง 2020 ทั้งหมดสามารถทำงานของตัวเองได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการของผู้ใช้เมื่อเครือข่าย 5จี ในเชิงพาณิชย์ เกิดเป็นจริงขึ้นมาในปีนั้น

รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ของ “เซียร์รา ไวร์เลส” แสดงให้เห็นว่า บริษัทธุรกิจจำนวนมากต้องการที่จะก้าวล้ำหน้าไปให้ได้ก่อนที่พายุ 5จี จะกระหน่ำมาถึง ข้อมูลของเซียร์รา ไวร์เลส ระบุว่าภายใน 1 ทศวรรษข้างหน้า จะเกิดการลงทุนเพื่อรองรับการมาถึงของ 5จี เป็นเม็ดเงินมหาศาล ถึงกลางปี 2020 จำนวนเงินลงทุนดังกล่าวจะทะลุถึงระดับ 247,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่น่าทึ่งเลยทีเดียวเมื่อคำนึงถึงว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นในระดับที่เร็วมากขึ้นกว่าเดิมในช่วงเวลาสั้นๆ ต่อไปจากนั้น

ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นอย่างเช่น เกมส์ออนไลน์ หรือธุรกิจอื่นใด ที่พึ่งพาขีดความสามารถในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของไอโอที หรือการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ล้วนเข้าใจและตระหนักเป็นอย่างดีว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้มีความหมายต่อธุรกิจของตนเองอย่างไร 5จี ยังอำนวยให้เกิดการใช้งานข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เปิดทางให้กับธุรกิจ “บิ๊กดาต้า” และบริการคลาวด์ ในเชิงสังเคราะห์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ “เซ็นเซอร์” ทั้งหลาย ที่นับวันจะฝังตัวเข้ามาอยู่ในอุปกรณ์และโครงสร้างเชิงดิจิทัลของเรามากยิ่งขึ้นทุกที ได้พัฒนาและแพร่หลายอย่างแท้จริงไปทั่วในทุกอุตสาหกรรมในระบบเศรษฐกิจ

นอกจากนั้น 5จี ยังก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตำแหน่งงานที่ยั่งยืนในอนาคต รายงานของไอเอชเอส

ระบุเอาไว้ว่าเครือข่าย 5จี จะรองรับการจ้างงานได้มากถึง 22 ล้านตำแหน่งงานทั่วโลกในปี 2035

ถึงที่สุดแล้ว 5จี กำลังจะปรับเปลี่ยนโฉมหน้าในการทำธุรกิจ ดำเนินธุรกิจไปอีกรูปแบบหนึ่งอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นเมื่อใดเท่านั้นเอง

ถึงเวลาแล้วที่จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจ 5จี อย่างถ่องแท้และจริงจัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image