วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ วิเคราะห์ปัจจัยเลื่อนเลือกตั้ง

หมายเหตุ – นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ให้สัมภาษณ์พิเศษ ‘มติชน’ วิเคราะห์ถึงเหตุและปัจจัยที่จะทำให้โรดแมปการเมืองเลือกตั้งของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เลื่อนจากกำหนดเดิมเดือนพฤศจิกายน 2561 รวมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562


ที่บอกว่าการเลือกตั้งจะไม่เกิดใน 2-3 ปีนี้ มีปัจจัยมาจากอะไร

ครั้งก่อนผมลองเสนอดูว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะกลับมาเป็นนายกฯ จะต้องมีการรวม 2 พรรคการเมืองมีคะแนนเสียงมากกว่า 251 เสียง ซึ่งคนที่จะทำแล้วก้าวข้ามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)

เมื่อครั้งที่ผ่านมา ผมพูดไปไม่ได้มีการหารือกับนายสุเทพ แต่เมื่อมีการเผยแพร่การให้สัมภาษณ์ครั้งที่ผ่านมาก็มีคนมาพูดคุยกับผม และเมื่อได้ดูการทำงานของฝ่ายต่างๆ ที่อยู่ในการเมืองทั้งหมดในขณะนี้แล้ว เห็นว่าถ้าเลือกตั้งครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ได้กลับมาเป็นนายกฯ เพราะ 2 พรรครวมกันคะแนนเสียงถึง 400 เสียงแน่ ทั้งๆ ที่เขียนรัฐธรรมนูญไว้แล้วว่าให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทั้ง 250 คนให้ร่วมเลือกนายกฯได้ แต่รัฐธรรมนูญเขียนให้ร่วมเลือกนายกฯได้อย่างเดียว ไม่ได้เขียนไว้เหมือนในสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ให้ ส.ว.สามารถเลือกนายกฯ และสามารถโหวตเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับต่างๆ อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าพรรคการเมืองจะรวมตัวกันได้ 400 เสียง

นอกจากนี้หากจัดการเลือกตั้งในทันทีโดยไม่มีการเตรียมคนและเตรียมการตั้งพรรคที่พร้อมสมบูรณ์ เชื่อว่าแพ้ 2 พรรคใหญ่ที่ได้คะแนนเสียงร่วมกัน 400 กว่าเสียงแน่ สิ่งที่พยายามทำได้ในตอนนี้คือการพยายามติดต่อฝ่ายต่างๆ การคุยกับคนเลือกตั้ง ประชาชนเป็นเรื่องยาก เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายที่ต้องมี รัฐบาลต้องมีกระแสที่ดีด้วย รัฐบาลจึงต้องทำความดีเพิ่ม เพื่อให้เมื่อประกาศวันเลือกตั้งแล้วมีโอกาสชนะ ผมมองว่าการเลือกตั้งน่าจะยืดเวลาออกไป 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย

Advertisement

การเลือกตั้งจะเกิดในปี 2563 หรือไม่

ปี 2563 ก็ยังสงสัย ที่นายกฯเคยยืนยันว่าปลายปี 2561 ยังเลื่อนไปช่วงต้นปี 2562 ได้อีก ทุกคนได้ฟังแล้วก็ไม่แน่ใจ ส่วนปี 2563 หรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้ นานแน่ เพราะนายกฯคิดไม่เหมือนคนอื่น เหมือนกับตัวนายกฯมีความมั่นใจว่าจะอยู่ได้อีกนานโดยไม่เลือกตั้ง เพราะการชุมนุมไล่รัฐบาลมันไม่ง่าย

แม้ขณะนี้จะมีกลุ่มมวลชนเริ่มออกมาขับไล่รัฐบาลและ คสช.ในหลายพื้นที่

อย่างตอนที่กลุ่มวีวอล์กเดินจากรังสิตไป จ.ขอนแก่น ยังไม่มีใครออกมาช่วยเดิน ยังเดินแบกธงกันไปไม่กี่คน ปรากฏว่าไม่มีปฏิกิริรยาของประชาชนที่จะออกมา ส่วนม็อบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็มีเพียงหลัก 100 และที่สำคัญคนหนุ่มคนสาวยังไม่ออกมา มีแต่คนสูงอายุยังไม่ใช่พลังที่บริสุทธิ์ที่แท้จริง ถ้าจะไล่รัฐบาลโดยการเดินขบวนแบบนี้ ไม่น่าจะได้การยอมรับจากประชาชน ประชาชนเบื่อมาก เพราะ 10 ปีที่ผ่านมา กองทัพใหญ่ๆ 3 กองทัพล้มหายตายจากไปเท่าไร เข้าคุกไปกี่คน กองทัพแรกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ระดมเงินทุน ทีวี หนังสือพิมพ์ สื่อ ใช้เวลาอยู่นาน ใช้คนเยอะมาก ขนาดตัวรัฐบาลไม่ได้มีกองทัพหนุนหลัง ยังใช้เวลาอยู่นานมาก มาถึงกองทัพกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และสุดท้ายคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) 10 ปีที่ผ่านมามันน่าจะมีคำตอบสำหรับคนที่จะออกมาเคลื่อนไหวแล้วว่าทำไมคนไม่ออกมา

หากออกมาหลักหมื่นคงจะล้มรัฐบาลไม่ได้ ต้องหลักล้านคนเท่านั้นที่จะไล่รัฐบาลในขณะนี้ได้ เพราะรัฐบาลเชี่ยวชาญขึ้นกว่ารัฐบาลทหารในอดีต สมัยนั้นเป็นพลังนักศึกษาที่บริสุทธิ์ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน สมัยนี้เดินขบวนก็ถูกดำเนินคดี ขึ้นโรงขึ้นศาลมีคดีความติดตัว ดูได้จากแกนนำทั้งกลุ่มพันธมิตร นปช. อยู่ในคุกกี่คน กลุ่ม กปปส. ก็อยู่ระหว่างขึ้นศาล การเดินขบวนแบบนี้ทำได้มีอยู่ 2 ทาง คือ ฝ่ายล้มรัฐบาลต้องมีเงินพอและใช้เวลานานเป็นปี หรือหากไม่ใช้เงินเลย ต้องมีนักศึกษาที่เกิดจากความบริสุทธิ์ที่ไม่อยากเห็นการแย่งอำนาจกัน ตอนนี้ทั้ง 2 กลุ่มยังไม่มี

Advertisement

แสดงว่ากลุ่มพลังบริสุทธิ์ก็ยังไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แม้กลุ่มอยากเลือกตั้งพยายามจุดกระแส

ตอนนี้คนไม่อยากเลือกตั้งอาจจะมากกว่าคนอยากก็ได้ เมื่อเลือกตั้งเข้ามาแล้วก็มีแต่นักการเมืองเก่าๆ ซึ่งเป็นจุดบอด เพราะประชาชนไม่ชอบนักการเมือง นักการเมืองเก่าๆ ที่ประกาศออกมา แต่ละคนแสดงบทบาทออกมามีแต่คนยี้ทั้งนั้น ที่ภาพพจน์ดีๆ มาเป็นความหวังประชาชน หายาก เพราะดูแล้วเหมือนสมบัติผลัดกันชม

ปัจจัยและเหตุผลต่างๆ ที่ คสช.จะนำมาเลื่อนเลือกตั้ง ประชาชนจะรับได้หรือไม่

เรื่องกฎหมายก็เอามาเลื่อนได้ เพราะเรายังไม่รู้ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) อีก 2 ฉบับที่เหลือนี้จะผ่านหรือไม่ ถ้าไม่ผ่านก็เป็นเหตุให้เลื่อนออกไปได้อีก แต่ถึงอย่างนั้นหากผ่านก็ยังมีปัจจัยอื่นที่สามารถนำมาอ้างได้ เช่น เรื่องความไม่สงบเรียบร้อย การจับอาวุธสงครามที่นั่น ที่นี่ เดี๋ยวไปจับอาวุธสงครามเพิ่มอีกจุดสองจุดก็เลื่อนออกไปได้อีก

แต่ก็มีการกดดันจากต่างชาติในเรื่องการเลือกตั้ง

ต่างชาติที่ไหนกดดัน ไม่เห็นมีประเทศไหนกดดันเลย ต่างชาติเขาก็ยึดประโยชน์ของประเทศของเขาเป็นสำคัญ ที่เขาพูดเขาพูดเพื่อให้ดูดี นอกจากพูดแล้วก็ไม่เห็นมีใครแซงก์ชั่นประเทศไทย ไม่เห็นมีใครเรียกทูตกลับประเทศ หรือไม่เห็นมีใครประกาศห้ามค้าขายกับประเทศไทยเลย มีแต่การกดดันด้วยคำพูดเท่านั้น

การเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ คสช.มั่นใจว่าชนะใช่หรือไม่

ใช่ ที่บอกว่าไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะเขายังเตรียมพรรคไม่ได้ คนไม่มี อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้คือหลังจากที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาลเสร็จก่อน หรือเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นความหวังของรัฐบาลที่เขาเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้

แสดงว่าเท่ากับรอให้เศรษฐกิจดี ภาพลักษณ์ดีก่อน

ครับ ซึ่งเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้ก็หลังอีอีซีเสร็จแล้ว เพราะไม่มีทางอื่นเลย แม้แต่โครงการไทยนิยมยั่งยืนที่รัฐบาลใช้งบประมาณและบุคลากรจำนวนมาก กระจายลงไปในแต่ละพื้นที่ก็ไม่ช่วย เนื่องจากคนทำงานเขาทำไปตามหน้าที่ อาจจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอที่ตั้งใจ แต่กำนัน ผู้ใหญ่ บ้านเขาก็ทำไปตามหน้าที่ พอถึงเวลาเลือกตั้งเขาก็จะออกมาบอกว่าตัวเองต้องเป็นกลางทันที แต่สมาชิก อบต. อบจ. และเทศบาลเขาไม่ได้กลางหรอก เขาเป็นประชาชน ถึงเวลาเลือกตั้งเขาก็ต้องช่วยคนที่เคยช่วยเหลือเขา และสุดท้ายแล้วฐานเสียงก็อยู่ที่มวลชน ทางทหารยังเจาะพื้นที่ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีคนทำให้อย่างจริงจัง วันนี้มีแต่คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนั้น กลุ่มนี้ทำให้ ดังนั้นผมจึงมองว่าการเลือกตั้งคงจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็มองแบบเดียวกันนี้

ฟันธงได้หรือไม่ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อใด

ปี 2562 หลายคนก็เชื่อว่ายังไม่มี เพราะหากจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 วันนี้ก็ต้องเห็นภาพการทำงานกันแล้ว นายกฯท่านเป็นคนฉลาดและมีแนวทางการทำงานที่แปลก และท่านเองน่าจะรู้ว่าถ้าจะตั้งพรรคแบบเดิมคงไม่ได้ เพราะถ้าทำแบบนั้นการปฏิวัติมาก็เสียของ วันนี้ม็อบอยากเลือกตั้งล้มรัฐบาลนี้ไม่ได้ แต่สิ่งที่จะล้มรัฐบาลนี้ได้คือกระแสเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่นของตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง แต่ก็ไม่มี ที่มีก็มีกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกฯเขาก็บอกเองว่า อย่ารักแต่นายกฯ ให้รักรองนายกฯของเขาด้วย ที่เขากล้าพูดแบบนี้เพราะเขายังเชื่อว่าเขามีคุณความดีอยู่

นอกจากนี้ที่เชื่อว่ายังอีกนานที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญอีก

อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับ พล.อ.ประยุทธ์ท่านรู้กัน นายกฯกล้าเอ็ดนายทักษิณว่าทำให้ประเทศวุ่นวาย ถ้าคนไม่รู้อะไรกันคงไม่เตือนกันอย่างนี้ เพราะคนระดับนายกฯ พูดถึงอดีตนายกฯ ในลักษณะนี้ผมมองว่าไม่ได้เป็นการเอ็ด แต่กลับมองว่าเป็นคำพูดที่น่ารัก เพราะถ้าเป็นศัตรูกันคงไม่ใช้คำพูดแบบนี้ เป็นการเอ็ดเหมือนเป็นเพื่อนกันหรือเอ็ดเหมือนนายทักษิณเป็นลูกน้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image