เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพ่อค้าแม่ค้าแผงลอตเตอรี่ในตลาดมหาชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่า มีมิจฉาชีพ หรือ 18 มงกุฎ ปลอมแปลงสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 แล้วเอามาขึ้นเงินในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ต้องสูญเสียเงินรวมๆ กันเกือบ 1 แสนบาท ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวจึงได้รีบลงพื้นที่ไปติดตามเล่ห์กลของมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณแผงขายลอตเตอรี่หน้าร้านทองฯ โดยเป็นจุดจำหน่ายลอตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดย่านตลาดสดมหาชัย ซึ่งก็ได้พบกับนายปัญญา ราชวงษ์ พ่อค้าขายลอตเตอรี่ที่ถูก 18 มงกุฎนำลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นเงิน ได้เงินไป 32,000 บาท กับแม่ค้าอีกรายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ สูญเงินไป 56,000 บาท
นายปัญญา ราชวงษ์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 930/7ฐ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พ่อค้าแผงลอตเตอรี่เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีชายวัยรุ่น รูปร่างหน้าตาดี สวมหมวกและแว่นตาดำปิดบังใบหน้า ทำทีนำลอตเตอรี่ 8 ใบมาขึ้นเงินรางวัล โดยบอกว่าถูกรางวัลเลข 3 ตัวข้างหน้า คือ เลข 388 ซึ่งเมื่อตนหยิบมาดูก็ถูกจริงอย่างที่ชายวัยรุ่นกล่าวอ้าง และเมื่อตรวจสอบทั้งจากการลูบคลำ การส่องด้วยตาเปล่า หรือแม้แต่การตรวจจากบาร์โค้ด ด้วยแอพพลิเคชั่น ก็ปรากฏว่า ถูกหมด ไม่พบสิ่งผิดสังเกตแต่อย่างใด ประกอบกับช่วงนั้นมีลูกค้ากำลังมาซื้อลอตเตอรี่และตนเองก็เชื่อมั่นว่าหลังจากที่หวยออกไปแล้วเพียงแค่ 1 -2 วันนั้น น่าจะยังไม่มีมิจฉาชีพหรือ 18 มงกุฎคนไหนปลอมแปลงลอตเตอรี่ได้เพียงแค่ภายใน 2 วัน และไม่มีใครจะปลอมได้ถึงบาร์โค้ด ดังนั้นจึงเอาเงินให้ไป 32,000 บาท (รางวัลเลข 3 ตัวหน้า หรือ 3 ตัวท้าย จะได้รับเงินใบละ 4,000 บาท) ต่อมาพอตนว่างๆ ก็เลยลองนำน้ำยาล้างเล็บมาป้ายลอตเตอรี่ทั้งหมดเพื่อดูความโปร่งใส ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบว่าเป็นลอตเตอรี่จริงหรือปลอมอีกวิธีหนึ่ง ปรากฏว่า กลับมีเลขบางตัวไม่โปร่งแสง จึงทำให้รู้ว่าถูก 18 มงกุฎ นำลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นเงินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนอกจากที่แผงของตนเองแล้ว ก็ยังมีแผงแม่ค้าอีกรายหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงกัน ถูกมิจฉาชีพน่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะมีรูปพรรณสัณฐานเหมือนกัน เอาลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นเงินรางวัลที่ 4 จำนวน 1 ใบ คือเลข 359128 เป็นเงิน 40,000 บาท และเลขท้าย 3 ตัว คือเลข 230 อีก 4 ใบ รวมเป็นเงิน 56,000 บาท ซึ่งก่อนที่จะให้เงินไปก็ได้มีการตรวจผ่านระบบบาร์โค้ดแล้วเช่นกัน ก็ปรากฏว่า บาร์โค้ดขึ้นว่าถูกรางวัล จึงได้ให้เงินไป และก็มารู้ตัวภายหลังว่าถูกมิจฉาชีพนำลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นเงินรางวัล จึงได้มีการเข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร
นายปัญญาเล่าอีกว่า หลังจากที่ตนและแผงแม่ค้าข้างเคียงถูก 18 มงกุฎหลอกเอาเงินไปได้รวมกันถึง 88,000 บาทแล้วนั้น ห่างกันไม่กี่ชั่วโมง ก็ยังมีอีกคนนำลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นเงินโดยบอกว่าถูกรางวัลที่ 5 จำนวน 2 ใบ เลข 480994 ซึ่งตนไม่ชะล่าใจหลงกลเชื่ออีกแล้ว จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้พอมิจฉาชีพเห็นว่าหลอกไม่เป็นผลสำเร็จจึงได้ทิ้งลอตเตอรี่หลบหนีไปทันที โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตนก็เคยถูกหลอกในลักษณะเช่นนี้มาแล้วสูญเงินไปกว่า 50,000 บาท และมีแม่ค้าอีกคนเคยถูกหลอกเมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว สูญเงินไปกว่า 120,000 บาท ส่วนที่ว่าทำไมมิจฉาชีพจึงพุ่งเป้ามาที่พ่อค้าแม่ค้าบริเวณนี้ ก็เนื่องจากตรงจุดนี้มีผู้ค้าจำนวนมากและมีลูกค้ามาซื้อเป็นจำนวนมากด้วย ดังนั้นในช่วงชุลมุนจึงเป็นช่วงที่เหมาะต่อการลงมือของแก๊งมิจฉาชีพมากที่สุด
ขณะที่นายปัญญา และบรรดาพ่อค้า แม่ค้า แผงลอตเตอรี่ก็บอกว่า อยากจะให้กองสลากฯหาวิธีการป้องกันและแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาหากินโดยสุจริต แต่ต้องมาเสียเงินให้กับ 18 มงกุฎ ซึ่งการทำสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาเพียงแค่ใบเดียว (ซีกเดียว) อย่างในปัจจุบันนี้ เป็นการเพิ่มช่องทางการปลอมแปลงที่ง่ายขึ้นสำหรับมิจฉาชีพทั้งหลาย ไม่เหมือนในอดีตที่ทำเป็นคู่ (2 ซีก) แม้จะมีการปลอมแปลงแต่ก็ยากกว่านี้ และต้องใช้เวลานานหลายวัน อีกทั้งก็อยากจะฝากถึงเรื่องของการทำบาร์โค้ดด้วย เพราะการที่กองสลากฯบอกว่ามีบาร์โค้ดบนลอตเตอรี่จะช่วยป้องกันการปลอมแปลงได้นั้น ไม่เป็นไปอย่างที่คาดไว้ เพราะลอตเตอรี่ปลอมที่นำมาขึ้นเงินครั้งนี้ นอกจากจะมีการดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงตัวเลขแล้ว ยังมีการปลอมแปลงไปถึงบาร์โค้ดด้วย พร้อมกันนี้ก็อยากจะให้สื่อช่วยแจ้งเตือนภัยไปถึงพ่อค้าแม่ค้าแผงลอตเตอรี่รายอื่นๆ ด้วย หากเจอมิจฉาชีพเหล่านี้ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
