61 คดี รีสอร์ทรุกป่า “เขาค้อ” อัยการสั่งไม่ฟ้อง หลักฐานไม่พอ-ขาดเจตนาทำผิด 27 คดี

(แฟ้มภาพ)

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคณะเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่บนแปลงที่ดินรอส.เขาค้อ และอยู่ในเขตป่าที่ทหารขอใช้จากกรมป่าไม้ ซึ่งอดีตเคยถูกจับกุมดำเนินคดีแต่อัยการหล่มสักสั่งไม่ฟ้องโดยให้เหตุผลว่าหลักฐานไม่พอ จนเป็นเหตุให้มีการนำมาเป็นข้อข้ออ้างเพื่อเร่งก่อสร้างต่อจนเจ้าหน้าที่ต้องสั่งให้หยุดก่อสร้างแต่ไม่มีการจับกุมดำเนินคดีว่า ในกรณีนี้ทางพนักงานอัยการมีคำเห็นเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้องเพราะพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง หากจะมีการจับกุมการดำเนินคดีนี้ใหม่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการฟ้องซ้ำหรือฟ้องเหมือนเดิม โดยทางเจ้าหน้าที่คงต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจะหาช่องทางฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาใหม่ โดยในกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 147 ซึ่งกำหนดชัดเจนในกรณีที่มีคำสั่งเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้องและผู้ฟ้องจะนำคดีที่มีคู่ความคนเดียวกันและคดีเดียวกันขึ้นฟ้องไม่ได้ยกเว้นจะมีหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งคดีนี้ก็เช่นกัน

นายปกรณ์ กล่าวว่า ส่วนการฝ่าฝืนประกาศอำเภอเขาค้อห้ามก่อสร้างนั้น เป็นการแจ้งให้ผู้ประกอบการรับทราบและให้หยุดดำเนินการก่อน ไม่เช่นนั้นหากยังดำเนินการต่อเนื่องโดยไม่สนใจ ก็เหมือนกระทำผิดซ้ำสองและยังชี้หรือแสดงถึงเจตนาเพราะทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนไปแล้ว ซึ่งจะมีผลต่อรูปคดีใยภายหลังโดยเฉพาะการจะมาอ้างขาดเจตนาก็คงไม่ได้ นอกจากนี้พื้นที่ 4 ตำบล ของเขาค้อค้อนั้นจริงๆก็ยังเป็นเขตพื้นที่ป่าและเจ้าของหรือผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่จริงๆก็คือกรมป่าไม้และทางฝ่ายทหารซึ่งเป็นฝ่ายที่ขอใช้พื้นที่ อย่างไรก็ตามทางอำเภอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในประเด็นเรื่องนี้ก็มีการหารือกันตลอดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหารและตำรวจ ส่วนแนวทางจะเป็นอย่างไรก็นั้นตรงนี้ขออนุญาตไม่เอ่ยถึงเพราะยังอยู่ในขั้นของการแสวงหาข้อเท็จจริงกันอยู่

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสำรวจที่ดินบนเขาค้อที่ทหารขอใช้จากกรมป่าไม้ โดยสรุปถึงคดีรีสอร์ทบุกรุกป่าเขาค้อซึ่งทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่อำเภอเขาค้อ ร่วมทำการจับกุมตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โดยทางป่าไม้และทหารผลัดเปลี่ยนเป็นผู้เสียหายแจ้งกล่าวโทษต่อตำรวจ สภ.เขาค้อ ให้ดำเนินคดีกับนายทุนรีสอร์ทกรณีบุกรุกป่าฯ โดยคดีส่วนใหญ่อยู่ในแปลง รอส.และเป็นพื้นที่ป่าที่กองทัพภาค 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้ ปรากฏว่ามีจำนวน 61 คดี โดยมีจำนวน 9 คดีที่ทราบผลคดีแล้ว ดำเนินการทางหนังสือให้นายอำเภอเขาค้อลงนาม เพื่อขอคัดสำเนาคำพิพากษาที่รับรองคดีถึงที่สุด และมีจำนวน 1 คดีพนักงานสอบสวนเห็นควรงดการสอบสวน

นอกจากนี้มีจำนวน 2 คดีที่พนักงานอัยการแจ้งยุติการดำเนินคดีเนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต และให้มีการพิจารณาว่าจะเรียกค่าเสียหายทางแพ่งหรือไม่ ขณะเดียวกันมีคดีอีกจำนวน 27 คดีที่พนักงานอัยการแจ้งคำสั่งไม่ดำเนินคดี โดยให้เหตุผลหลักฐานไม่เพียงพอจำนวน 17 คดี และผู้ต้องหาขาดเจตจากระทำผิดและสำคัญผิดในข้อเท็จจริง นอกจากนี้มีจำนวน 11 คดีที่ยังอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ และรอเอกสารยืนยันจากพนักงานอัยการจำนวน 3 คดี รวมทั้งมีการส่งมอบคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)ไปจำนวน 8 คดีซึ่งคดียังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image