ตำรวจโรงพัก เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 4 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสายบางลึก-หาดพันไกร เป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้สภาพเก่า บริเวณห้องครัวชั้นล่างพบศพ นายเสรี กาลปักษ์ อายุ 74 ปี นอนหงายหน้าทับอยู่บนกองเลือดที่ไหลนองพื้น สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีฟ้า มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่ร่องปากอย่างแรงฉีกจนถึงใบหู ข้างศพมีถ้วยข้าว กับข้าว ถ้วยน้ำพริก แตกกระจายเกลื่อนพื้น ห่างจากศพราว 3 เมตร มีขวานขนาดใหญ่ ด้ามไม้ยาวประมาณ 1 เมตร ลักษณะฟันปักติดอยู่บนชั้นวางของ บริเวณคมขวานมีคราบเลือดแดงฉานติดเปรอะเปื้อนอยู่ เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนคนร้ายไม่ได้หลบหนีไปไหนยังนั่งยิ้มเหมือนคนอาการเบลอๆอยู่หน้าบ้านเลขที่ 93/1 ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสร้างอยู่ติดกัน ทราบชื่อคือ นายวุฒิชัย กาลปักษ์ อายุ 22 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวและเป็นลูกชายของผู้ตาย ในมือทั้ง 2 ข้างยังมีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงจับใส่กุญแจมือแล้วรีบควบคุมตัวออกไปก่อนที่จะรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากชาวบ้านและญาติที่รู้ข่าวทยอยมาดูศพผู้ตายกันจำนวนมาก
จากการสอบสวนทราบว่า นายวุฒิชัยเป็นลูกชายของนายเสรีผู้ตาย ซึ่งบ้านทั้ง 2 หลังที่อยู่ติดกันเป็นบ้านของนายเสรีโดยนายวุฒิชัยลูกชายอาศัยอยู่ ซึ่งมีพฤติกรรมเสพยาบ้ามานานจนติดขั้นรุนแรงและมีอาการทางสมอง ชอบหาเรื่องทะเลาะด่าทอทุบตีพ่อกับแม่อยู่เป็นประจำ จนชาวบ้านใกล้เคียงเอือมระอาในพฤติกรรม กระทั่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เป็นแม่ซึ่งอายุมากแล้วทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงย้ายหนีไปขออาศัยอยู่กับญาติ ส่วนนายเสรีผู้เป็นสามีไม่ยอมไปด้วยยังอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ
ขณะกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในครัว นายวุฒิชัยได้เดินลงออกมาจากบ้านหลังที่อยู่ แล้วพูดจาหาเรื่องด่าทอ นายเสรีผู้เป็นพ่อจึงพูดจาตอบโต้กลับไป ทำให้นายวุฒิชัยโมโหเดินไปหยิบขวานที่อยู่ใกล้ๆ ฟันเข้าไปที่ปากของผู้เป็นพ่ออย่างจังจนแผลฉกรรจ์ฉีกขาดถึงใบหูแล้วล้มลงตายคาชามข้าวในที่เกิดเหตุ แล้วนำขวานไปฟันปักไว้บนชั้นวางของ ก่อนจะเดินหัวเราะยิ้มร่าไปบอกเพื่อนบ้านว่าได้ฟันพ่อตัวเองตายแล้ว และเดินกลับมานั่งอยู่บนเก้าหน้าหน้าบ้านตัวเอง จนชาวบ้านแจ้งตำรวจและจับกุมตัวไปดำเนินคดีดังกล่าว.
