เสียงคนรุ่นใหม่ โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

นับจากพลังผู้หญิงต่อต้านการล่วงละเมิดและเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศปลุกกระแสจุดติดมาข้ามปี ตอนนี้ในอเมริกามีกระแสวัยรุ่นต่อต้านอาวุธปืนที่เริ่มทรงพลังขึ้นมาทุกขณะ

ตั้งแต่เกิดเหตุสยองเมื่อวันวาเลนไทน์ ที่มีวัยรุ่นอายุ 19 ปี บุกเข้าไปยิงกราดในโรงเรียนที่รัฐฟลอริดา 17 ศพ

มือปืนเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนและมีปัญหาทางจิตใจและอารมณ์ส่วนตัว แต่กรณีนี้ใช้เป็นข้ออ้างที่จะปล่อยให้เรื่องค่อยๆ เงียบหายไปเหมือนทุกครั้งไม่ได้อีก

เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่เกิดเหตุลักษณะนี้มาเป็นระยะ และยังจัดการอะไรไม่ได้ ทั้งในฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร

Advertisement

กลุ่มคนที่หวาดผวาประชาธิปไตยในบ้านเราบอกว่า นี่ไงล่ะ ผลกรรมของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ปล่อยเสรีมากๆ สังคมก็เลยต้องเจอกับโศกนาฏกรรมเช่นนี้

การสรุปแบบนี้คงลืมมองโลกให้กว้าง ว่ามีประเทศประชาธิปไตยอีกมากที่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนด้วย ไม่ไกลจากบ้านเรามากนักก็มีประเทศญี่ปุ่นที่ไม่มีเหตุคลั่งยิงแบบนี้

นอกจากนี้ยังต้องมองยาวๆ ด้วยว่าพลังของประชาธิปไตยนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่

กรณีของมือปืน 17 ศพ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าผู้ลงมือป่วยทางจิต หรือเอฟบีไอทำงานแบบไม่สะเด็ดน้ำ แต่เกิดคำถามว่าทำไมวัยรุ่นอายุ 19 ปี ซื้อปืนไรเฟิลมาเก็บไว้อย่างง่ายดายอย่างกับซื้อขนม

เมื่อรวมกับคดีสยองเมื่อปีก่อนที่ลาสเวกัส มือปืนวัยเกษียณที่ฆ่าคนตายไป 58 ชีวิต ก็ไปซื้อปืนมาสะสมไว้ไม่ต่ำกว่า 24 กระบอก กระสุนพร้อมสรรพเป็นร้อยนัด

ส่วนคดีสะเทือนขวัญก่อนหน้านี้ก็เข้าข่ายคล้ายๆ กัน

เพียงแต่ครั้งนี้หลังเหตุการณ์ เด็กๆ ในโรงเรียนมาร์จอรี สโตนแทน ดักลาส บอกว่าจะไม่ยอมแค่ร้องไห้เสียใจและไว้อาลัยอย่างเดียวอีกแล้ว แต่ต้องการเห็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองปฏิรูปการควบคุมอาวุธปืนได้แล้ว

การรณรงค์ส่วนหนึ่งติดแฮชแท็กว่า #MeNext? เพื่อถามว่าจะให้ฉันเป็นเหยื่อรายต่อไปอย่างนั้นหรือ และ #neveragain เพื่อจะบอกว่าต้องไม่เกิดเหตุซ้ำรอยอีก

กลุ่มเด็กๆ ตั้งประเด็นด้วยว่า สมาชิกสภาคองเกรสคนใดก็ตามที่รับเงินจากสมาคมไรเฟิลแห่งชาติ หรือสนับสนุนการถือครองปืนอย่างเสรี ถือว่ามีส่วนรับผิดชอบในความสูญเสียที่เกิดขึ้น

ไม่เท่านั้น เหล่านักเรียนยังประกาศแผนเดินหน้ารณรงค์จัดการเดินขบวน March for our Lives – เดินเพื่อชีวิตพวกเรา ในกรุงวอชิงตัน วันที่ 24 มี.ค. เชิญชวนประชาชน นักเรียนนักศึกษา ไปจนถึงนักการเมืองผู้สนับสนุนทั่วประเทศเข้าร่วม

หลังจากกลุ่มนักเรียนประกาศโรดแมปควบคุมอาวุธปืนออกมาได้ไม่นาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เริ่มขยับนิดหน่อย ว่าจะสนับสนุนการตรวจสอบประวัติ-ภูมิหลังผู้ซื้อปืนให้เข้มงวดกว่าเดิม

ท่าทีแบบนี้สะท้อนถึงพลังของประชาธิปไตยที่สะท้อนไปถึงผู้นำได้ ต่อให้มาจากเด็กก็ตาม

ในบ้านเรามีกลุ่มนักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่พยายามจะแสดงออกและส่งเสียงไปถึงผู้มีอำนาจเช่นกันว่าต้องการเลือกตั้งเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ได้รับคือการถูกดำเนินคดีเพื่อให้อยู่เงียบๆ

เพราะคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องฟังเสียงที่ไม่อยากได้ยินแต่อย่างใด

………………

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image