นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทยเพื่อแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ที่ กกท. หัวหมาก เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ วาระสำคัญคือ การเตรียมนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจากาตาร์ และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม-2 กันยายน สรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมได้มีการแจ้งสมาคมกีฬาที่ยังไม่ส่งรายชื่อนักกีฬาที่จะเข้าร่วมแข่งขันมาอนุมัติ โดยจาก 46 ชนิดกีฬา มีส่งมาแล้ว 40 ชนิดกีฬา ขาด 6 ชนิดกีฬา ได้แก่ ขี่ม้า, ฮอกกี้, เรือใบ, ยิงปืน, ปีนหน้าผา และเจ็ตสกี โดยได้แจ้งให้ส่งโดยด่วน นอกจากนี้นายสกล ยังได้แจ้งให้กับทุกสมาคมฯ ส่งข้อมูลเรื่องของสถานที่เก็บตัวและสถานที่ฝึกซ้อมให้เรียบร้อย และตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป จะเริ่มออกตรวจเยี่ยมแต่ละสมาคมต่อไป
หลังประชุม นายสกล กล่าวว่า เรื่องการเตรียมนักกีฬาเอเชี่ยนเกมส์หลังจากที่ กกท. ได้อนุมัติแผนเก็บตัว ทุกสมาคมสามารถทำการเบิกจ่ายได้ตามที่ได้ส่งแผนมา นอกจากนี้ยังมีบางสมาคมที่ต้องการส่งนักกีฬาไปแข่งขันในรายการอื่นๆ เพิ่มให้ทำแผนส่งมาเพิ่มเติมได้เช่นกัน
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นกังวล เพราะว่าทุกอย่างที่สมาคมกีฬาเรียกร้อง ทางกกท. ก็พร้อมที่จะจัดให้ทุกอย่างตามคำขอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเบี้ยเลี้ยง, ผู้ฝึกสอนต่างชาติ หรือว่าการส่งแข่งต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเดียวที่ขอจากทุกสมาคมคือคือให้ตั้งใจจริงๆ เท่านั้น”
บิ๊กเสือ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงจำนวนเหรียญ เพราะอยากให้ทุกสมาคม ได้ส่งนักกีฬาออกแข่งขันกับต่างประเทศ เพื่อวัดฝีมือและหาจุดที่ต้องปรับปรุงกันก่อน ค่อยมาประเมินกันอีกครั้งว่าจะมีโอกาสคว้าเหรียญมากแค่ไหน ซึ่งน่าจะเป็นช่วง 1 เดือนสุดท้ายก่อนแข่ง
ส่วนกรณีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีแผนที่จะใช้นักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ไปแข่งขันนั้น ผู้ว่ากกท. กล่าวว่า ตอนนี้ไม่กังวล เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ทางสมาคมคงได้มีการเตรียมความพร้อมและวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว คงไม่ขัดแย้งหรือว่าเห็นต่าง เพราะสมาคมเป็นผู้ที่มีหน้าที่การเตรียมนักกีฬา กกท.จะเป็นผู้สนับสนุน
