นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) แข่งขันทางการค้า อยู่ระหว่างทำตามโรดแมป จัดตั้งสํานักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ขึ้นเป็นองค์กรอิสระ และโอนย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องบางส่วนจากกระทรวงพาณิชย์ไปสังกัดหน่วยงานใหม่นี้ รวมถึง ต้องสรรหาคณะกรรมการ (บอร์ด) แข่งขันทางการค้าชุดใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2561 จากนั้นจะต้องตั้งเลขาธิการภายใน 180 วันหลังการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งต้องได้เลขาธิการภายในสิ้นปีนี้ เหล่านี้เป็นกระบวนการที่ทำตามแผน หลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ซึ่งตามข้อกำหนดของกฎหมาย จะต้องเร่งพิจารณากฎหมายรอง และกฎระเบียงต่างๆ เพื่อรองรับกฎหมายใหม่นี้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนคดีเก่าที่เข้าข่ายอาจจะไม่เป็นธรรมทางการค้าที่คั่งค้างมาตั้งแต่ พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้าฉบับเดิม ก็ยกขึ้นมาดำเนินงานต่อภายใต้ พ.ร.บ.ตัวใหม่นี้ได้ทันที โดยกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญมากในการพยายาม ที่จะบังคับใช้กฎหมายเพื่อบริหารจัดการการค้าในทางปฏิบัติได้จริงและเป็นธรรม เช่น เรื่องเกณฑ์การมีอำนาจเหนือตลาด นั้น ก็ใช้หลักเกณฑ์ตามกฎหมายเดิมที่กำหนดให้ผู้ที่มีอำนาจเหนือตลาดจะต้องมีส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่า 50% มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท หากรวมทั้งผู้ค้า 3 รายมีส่วนแบ่งการตลาดเกิน 75% แต่ละรายมียอดขายเกิน 1,000 ล้านบาท ก็เข้าข่ายการมีอำนาจเหนือตลาด ส่วนความผิดต้องพิจารณาว่ามีการกระทำผิดตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ใช้ความใหญ่ไปข่มเหงธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ถ้าทำธุรกิจถูกต้อง มีธรรมาภิบาล ก็จะไม่มีความผิด
” กฎหมายตัวนี้ยิ่งส่งเสริมให้ธุรกิจมีขนาดใหญ่ เพื่อที่จะไปแข่งขันในต่างประเทศได้มากขึ้น ส่วนการฟ้องร้องนั้น กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ภาคธุรกิจเป็นผู้ฟ้องร้อง แต่ถ้าหากประชาชนรู้สึกว่าเสียผลประโยชน์ ก็แจ้งเรื่องมาที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้ ซึ่งจะนำไปพิจารณาตั้งเรื่องฟ้องร้องให้ “นายสนธิรัตน์ กล่าว
