เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.)เปิดเผยถึงการเดินหน้าตรวจสอบบริษัทให้บริการโทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือระบบ VOIP (Voice over Internet Protocol) เป็นเทคโนโลยีใหม่ สําหรับการสื่อสารทางโทรศัพท์ โดยไม่จําเป็นต้องใช้ชุมสายโทรศัพท์ สามารถโทรได้ทั่วโลก ว่า ที่ผ่านมามีการเรียกประชุมร่วมกับตัวแทน 5 บริษัท ที่ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เช่น ทรูมูฟ ดีแทค เอไอเอส แคทเทเลคอม และทีโอที หลังจากที่ผ่านมาหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่เข้มงวดในการตรวจสอบ เพราะว่าหลังเปิดให้เช่าเครือข่ายต่อไปแต่มีการให้บริษัทอื่นเช่าช่วงต่อ ไม่สามารถทำได้เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม 2544 เพราะที่ผ่านมางานด้านความมั่นคงตรวจสอบไม่ได้ว่าผู้ที่ใช้โทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ในการก่อเหตุโทรมาจากสถานที่ใด เรื่องดังกล่าวทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี(ฝ่ายความมั่นคง )ตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชนและการทำงานของหน่วยที่รับผิดชอบ จึงมอบหมายให้ลงมากวดขันและเฝ้าติดตามจับกุมบริษัทที่เช่าสัญญาณและให้บริษัทอื่นเช่าช่วงต่อ
รองผบช.ทท. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังหารือร่วมกับ กสทช.เพื่อจัดระเบียบการจำหน่ายใช้ซิมการ์ด โดยทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ตั้งวอร์รูมที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)เพื่อควบคุมเฝ้าตรวจสอบหลังจากที่ผ่านมาคนร้ายมักใช้โทรศัพท์ใส่ซิมการ์ดที่ไม่ได้จดทะเบียนมาก่อเหตุในพื้นที่ความมั่นคง หากมีการตรวจสอบพบว่าร้านค้าหรือบุคคลใดนำไปใช้โดยไม่ได้ลงทะเบียน ทางกสทช.ใช้อำนาจในการดำเนินคดี
