‘ปนัดดา’แนะใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างสร้างสรรค์ อย่าใช้ให้สังคมขัดแย้ง บอกอย่าเป็นวัวลืมตีน

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่วังวรดิศ ถนนหลานหลวง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานพิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้สนทนากับผู้เข้าเยี่ยม ครูอาจารย์ และลูกหลานเยาวชน เรื่อง ‘โรงเรียนคุณธรรม และสถานพินิจคุณธรรม นำความร่มเย็นเป็นสุขสู่บ้านเมืองไทย’ โดยยกตัวอย่างโรงเรียนคุณธรรม ‘สตรีวัดระฆัง’ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ที่ ม.ล.ปนัดดา เคยได้ไปเยี่ยมเยียนและบรรยายพิเศษ ขึ้นเป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนและเชื่อมั่นว่ามีความยั่งยืนที่สุด โดยพูดติดตลกถึงคำพูดของชาวอังกฤษที่รักและผูกพันกับโรงเรียนสตรีวัดระฆังของประเทศไทยแห่งนี้ว่า ‘The Lady Jingle Bells School’

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า “โรงเรียนสตรีวัดระฆัง ตามโครงการ ‘ครอบครัวพอเพียงสู่สถานศึกษาและชุมชน’ ถือเป็นสถานศึกษาในความทรงจำ ทั้งนี้ โรงเรียนมุ่งเน้นเสริมสร้างระบบคุณธรรมอันมีความแข็งแกร่ง มั่นคง ให้เกิดขึ้นแก่ศิษย์ทุกคน ครูอาจารย์มีความเข้มแข็งมุ่งมั่นอย่างมาก โดยผมมองภาพตั้งแต่ผู้บริหาร คือ ผู้อำนวยการหรือครูใหญ่ ครูอาจารย์ มองไปที่ศิษย์เก่าที่ต่างอุทิศความรู้ความสามารถให้กับโรงเรียนและรุ่นลูกรุ่นหลาน ครูชาวต่างประเทศที่มีคุณภาพมีความมุ่งมั่นตั้งใจ พูดภาษาต่างประเทศได้อย่างไพเราะเพราะพริ้ง แม้รวมถึงนิสิตนักศึกษาฝึกสอนที่ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในการปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบสูง

ความเป็นธรรมชาติของโรงเรียนอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมมองว่ามีความสำคัญยิ่ง คือ จิตวิญญาณของผู้บริหารและครูอาจารย์ที่ต่างมีความเชื่อมั่นศรัทธาในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม และหลักธรรมาภิบาล จะนำมาซึ่งการพัฒนาโรงเรียนสู่ความเป็นสถานศึกษาแห่งความสุข ลูกหลานนักเรียนมีความรอบรู้ มีความสามารถ ดั่งที่ผมได้ประจักษ์ด้วยตนเอง คือ โรงเรียนได้ให้ความสำคัญในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม และการศึกษาเรียนรู้ศาสตร์พระราชาอย่างมีความชัดเจน เช่นเดียวกับอีกหลายๆ สถานศึกษาที่ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยม หลักคุณธรรมจริยธรรมนี้เองถือเป็นฐานแรกเริ่มหรือความเป็นปฐมบทแห่งการพัฒนาจิตใจผู้คนในสังคมและลูกหลานเยาวชนให้เป็นคนดี มีความภาคภูมิใจในชาติ”

ในฐานะที่ ทำหน้าที่กำกับดูแลการทำงานของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม จึงได้มีโอกาสไปตรวจเยี่ยมสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนในหลายจังหวัด ล่าสุดที่ จ.ราชบุรี, จ.ปทุมธานี, จ.ระยอง ได้พบปะพูดคุยกับผู้บริหาร ตลอดทั้งลูกหลานเยาวชนในสถานพินิจฯ ได้ฝากข้อคิดแก่เด็กๆ เมื่อกลับคืนสู่สังคมภายนอกว่า

Advertisement

“การใช้ ‘โซเชียล เน็ตเวิร์ก (Social Network) อย่างสร้างสรรค์เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราได้พูดคุยกันอยู่พักใหญ่ ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะจะสัมพันธ์ไปถึงเรื่องการคบเพื่อนคบฝูง แม้เรื่องการถูกชี้นำ การถูกครอบงำให้กระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เช่น เรื่องปัญหายาเสพติด ซึ่งประเทศของเราถือว่าตั้งอยู่ติดกับพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิต ลูกหลานจะต้องมีความระมัดระวัง มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนเป็นหลายเท่าตัว จะตั้งอยู่ในความประมาทไม่ได้เลย บุพการี ครูอาจารย์ ต้องช่วยกันดูแลและเป็นแบบอย่างแก่เด็ก ที่ท่านจะได้บุญกุศลอย่างมาก ไม่มีสิ่งใดเปรียบได้แล้วในคุณความดีนี้ที่ทุกท่านอุทิศ

อยากเรียนว่า อย่าใช้ ‘โซเชียล เน็ตเวิร์ก เพื่อให้เกิดความขัดแย้งทางสังคม การให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ หรือการให้ร้ายผู้อื่นที่ถือเป็นบาป เพราะเราทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยเหตุและผล ไม่ใช่เพื่อการแบ่งแยกผู้คนทางสังคมเป็นฝ่ายเป็นสีเป็นศัตรู ไม่มีสังคมอารยะใดที่จะสอนสั่งให้ผู้คนเกิดความขัดแย้งกันเองในบ้านเกิดเมืองนอน ใครไม่ดี อวดรู้ อวดเบ่ง เราไม่ชอบ ลูกหลานไม่ต้องไปคบหาสมาคมด้วย เราอยู่ของเรา มุ่งมั่นศึกษา อยู่กับครอบครัวเรา ไม่ได้ไปขอข้าวใครเขากิน

บรรพบุรุษไทยสอนลูกหลานมาแต่ช้านาน ‘อย่าหลงลืมตัว เป็นวัวลืมตีน’ แม้อาจฟังดูเป็นถ้อยคำที่ค่อนข้างแรง แต่ผมมีความเชื่อมั่นว่า เป็นคำสอนที่บรรพชนท่านต้องการให้ผู้คนจดจำและนำไปใช้ในการดำรงชีวิตภายภาคหน้า ลูกหลานเยาวชนหลายคนอาจไม่คุ้นเคยหรือรู้จักกับคำสอนดั้งเดิมทั้งหลายนี้ จึงหวังว่าผู้ใหญ่ทุกท่านจะได้ช่วยกันสร้างแบบอย่างให้กับเด็กรุ่นใหม่ได้เข้าใจในคติคำสอนดีๆ ซึ่งเป็นคำสอนชีวิต เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว รักษาความดีให้มีอยู่กับตัว ป้องกันความไม่ดี ความชั่ว ไม่ให้เข้ามาใกล้

Advertisement

ใครที่มีหน้าที่อะไรก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญคือต้องช่วยกันรักษาคุณธรรม สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีตามพระราชปณิธานของในหลวงให้เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ทั้งการน้อมนำสู่การปฏิบัติในเรื่องปรัชญาความพอเพียง ความเพียร ความกตัญญูกตเวที ความซื่อสัตย์สุจริต และความรับผิดชอบ

กล่าวโดยสรุปได้ว่า ผู้นำองค์กร ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ คือ แบบอย่างแห่งความดี และความภูมิใจที่ยั่งยืนแก่ลูกหลานทุกคน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ลูกๆ หลานๆ เรียนรู้และเดินตาม หากแต่ถ้าปฏิบัติชั่ว เราต้องมีความเชื่อและศรัทธาในกฎแห่งกรรม

ขอให้ลูกหลานเยาวชนได้จารึกจดจำในพระราชดำรัสคำสอนทรงพระกรุณาพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตลอดไปว่า ความซื่อสัตย์สุจริตก็ดี ความเป็นนักการศึกษาที่ดี มีความเพียร มีความซื่อตรงก็ดี ความพอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อแก่ชีวิตก็ดี ความไม่หลงลืมตัวก็ดี อีกทั้งการรักษากิริยา วาจา ใจ ว่าด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนถือเป็นบ่อกำเนิดแห่งสังคมสุจริตธรรม และความไพบูลย์รุ่งเรืองของชาติ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image