รัฐ-เอกชน ชี้เทคโนโลยี 5จี ดีต่อทุกอุตสาหกรรมช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ

นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึงกรณีนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “5G เปลี่ยนโลก เปลี่ยนประเทศไทย” ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ 10 ภาคธุรกิจเมื่อเข้ามีการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้และต้องเร่งปรับตัว โดยภาคการเงินการธนาคาร เป็นหนึ่งใน 10 ภาคธุรกิจนั้นว่า ธนาคารฯให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก หากเทคโนโลยีให้ความสะดวกรวดเร็ว ลดต้นทุนในการเข้าถึงบริการ สร้างบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในการพัฒนาตนเองในจุดนี้

ทั้งนี้ ธนาคาร ไม่มีความกังวลว่าเทคโนโลยี 5จี จะนำไปสู่การปรับลดสาขาของธนาคาร เนื่องจากโมบายแบงกิ้งไม่สามารถทดแทนช่องทางบริการเดิมได้ทั้งหมด เช่น ธุรกรรมเงินสดหรือเช็ก เป็นต้น เทคโนโลยีอาจเหมาะกับคนรุ่นใหม่ แต่ยังมีกลุ่มผู้ใช้บริการอื่น เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เชื่อถือช่องทางการบริการแบบเดิม เพราะได้สอบถามข้อมูลกับพนักงานจริงๆ ซึ่งการปรับตัวของธนาคารขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นหลัก ต้องรอดูผลตอบรับของผู้บริโภคในอนาคตก่อน จึงจะคาดการณ์การปรับตัวของธนาคารได้

“ในกรณี 4จี ที่ผ่านมา ผู้บริโภคให้การตอบรับดี ธนาคารจึงมีมุมมองที่ดี ในการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน ทำให้เรามีทางเลือกในการนำเสนอสิ่งที่ดีขึ้นได้ แต่วิธีการนำเสนอที่ดีขึ้นนั้น ไม่ได้หมายความว่าธนาคารจะต้องปิดสาขา เพราะยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่เลือกใช้การบริการในรูปแบบเดิมอยู่”

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมจากการเกิดขึ้นของ 5จี ว่า การปรับตัวของอุตสาหกรรม ต้องสอดคล้องการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่แล้ว รวมถึงการปรับบุคลากรให้ทันต่อเทคโนโลยี ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีการพัฒนาจาก 4จี เป็น 5จี ในอนาคตที่จะมาถึงนั้น เชื่อว่าเป็นผลดีต่อภาครวมในการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกด้าน และไม่น่าจะมีอะไรต้องกังวล เพราะภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และภาคประชาชนเอง ยังมีเวลาอีก 2 ปีกว่าเทคโนโลยี 5 จีจะเข้ามามีบทบาท ก็พอมีเวลาให้ทุกภาคส่วนได้ปรับตัว ในภาพรวมเห็นว่าจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย

Advertisement

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ผู้บริหารบริษัท ควอลคอมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ได้เข้าพบนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อรับทราบนโยบายและรายละเอียดการส่งเสริมการลงทุนในไทยว่ามีแนวทางอย่างไร โดยทางควอลคอมม์ แสดงว่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยโดยเฉพาะในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมกับมีการเข้าพบนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อหารือในเรื่องเดียวกันนี้ ทั้งนี้ เอกชนมองว่า ไทยมีความพร้อมต่อการพัฒนาเข้าสู่ยุค 5จี และน่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image